Movement ที่ดีของบางแก้ว ควรเป็นอย่างไร | |
จากมมาตรฐานสายพันธุ์บางแก้วตามที่สมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย)กำหนดไว้ ระบุว่า Movement หรือ การย่างก้าว : คล่องแคล่วและทรงพลัง มองด้านข้าง ขาหน้าและหลังสอดประสานอย่างกลมกลืนเส้นหลังตรงระนาบ หัวและหางชู ขึ้นอย่างสวยงาม มองทางด้านหน้า ขาหน้าและขาหลังไม่แสดงอาการปัดหรือแกว่ง หลายท่านอ่านแล้วไม่เห็นภาพ หลายท่านก็ยังมีมุมมองที่แตกต่างกันอยู่ เราลองมาช่วยกันดูว่า Movement ที่ดีของบางแก้ว ควรเป็นอย่างไร โดยดูจากสุนัขพันธุ์อื่นๆที่ใกล้เคึยงกับบางแก้ว เริ่มจาก Akita http://www.youtube.com/watch?v=OlTpDfiV4Uc |
ตอบ: Movement ที่ดีของบางแก้ว ควรเป็นอย่างไร | |
ลองดู Siberian husky คู่แข่งตัวยงของบางแก้วในเมืองไทยบ้าง |
ตอบ: Movement ที่ดีของบางแก้ว ควรเป็นอย่างไร | |
ตามด้วย Alaskan malamute ที่อยู่ในกลุม 5 ของ FCI เหมือนกัน |
ตอบ: Movement ที่ดีของบางแก้ว ควรเป็นอย่างไร | |
Keeshond เป็นสุนัขขนปุกปุยอีกพันธุ์หนึ่งที่ผมชื่นชอบ แต่ไม่มีปัญญาจ่ายค่าแอร์ให้มันอยู่เย็นๆทั้งปี |
ตอบ: Movement ที่ดีของบางแก้ว ควรเป็นอย่างไร | |
Chow Chow หมาหน้าดุใจดีในกลุ่ม 5 |
ตอบ: Movement ที่ดีของบางแก้ว ควรเป็นอย่างไร | |
มาดู pomeranian หมาไซซ์เล็กในกลุ่ม 5 บ้าง |
ตอบ: Movement ที่ดีของบางแก้ว ควรเป็นอย่างไร | |
Japanese Spitz หมาไซซ์เล็กในกลุ่ม 5 อีกพันธุ์หนึ่ง รู้สึกว่า หมาไซซ์เล็กดูจะย่างก้าวได้คล่องแคล่วสวยงามกว่าหมาไซซ์ใหญ่นะ |
ตอบ: Movement ที่ดีของบางแก้ว ควรเป็นอย่างไร | |
แต่เคยมีผู้รู้ชี้แนะว่า ท่ามาตรฐานการวิ่งของบางแก้วจะต้องขาสาด ไม่พับเหมือนม้าย่อง (ขาหน้า) http://www.bangkaew.com/stringychat/stringychat.incall.php?pPageNo=18 หาคลิปตัวอย่างขาสาดชัดๆไม่ได้ ขออนุญาตเอารูปหมาตัวเองมาเป็นตัวอย่างละกัน เพื่อให้เห็นว่า ขาสาดหมายถึงขาเหยียดตรง http://www.bangkaew.com/elearning2/mod/forum/discuss.php?d=2644 |
ตอบ: Movement ที่ดีของบางแก้ว ควรเป็นอย่างไร | |
คุณ พสุธา พันธุ์สาย กูรูบางแก้วเจ้าเก่าผู้ละทิ้งวงการบางแก้ว ผันชีวิตตนเองกลับไปเป็นวิศวกรได้พูดถึงท่าวิ่งของบางแก้วในกระทู้ มุมขาหลังของบางแก้ว สำคัญไฉน ว่า กรณีเรื่องมุมขาหลัง ผมเห็นสุนัขบางแก้วช่วงสองปีที่ผ่านมานี้มีมุมขาหลังมากขึ้นเมื่อเทียบกับสุนัขรุ่นเก่าๆส่วนใหญ่ (แต่แหม ผมอยากให้ได้เห็นรูปของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วที่เราถือกันว่าเป็นต้นแบบ เช่น หนึ่ง, บ๊อบบี้ จังเลย แล้วเราค่อยมาพูดกันว่าสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้เราพัฒนาอะไรแค่ไหนอย่างไร) แต่ว่าถ้าลองสังเกตุดูนะครับจะพบลักษณะอื่นๆประกอบด้วย เช่น เมื่อสุนัขเคลื่อนที่ออกจากเรา จะเห็นข้อขาหลัง (Back Pastern) ดีดสูงขึ้นมาจนดูไม่สบายตา เส้นหลังไม่ค่อยอยากจะตรงเท่าไรนัก มักจะแอ่นเป็นส่วนใหญ่ ขาหลังค่อนข้างเคลื่อนที่แบบบิดเข้าด้านในลำตัว (Cow hock) http://www.bangkaew.com/webboard/view.php?No=404 |
ตอบ: Movement ที่ดีของบางแก้ว ควรเป็นอย่างไร | |
พูดถึง Movement ที่ดีของบางแก้ว ก็คงต้องให้เครดิตคุณเพื่อน กูรูบางแก้วเจ้าเก่าผู้ยืนหยัดไม่ละทิ้งวงการบางแก้ว ท่านให้ความรู้ไว้ดีครับ ขออนุญาตนำบางส่วนมาให้ได้อ่านกัน ในรูป ตัวที่ 1 และ 2 จากซ้ายมือ คือลักษณะของการเดิน และวิ่งที่ถูกต้องครับ รูปที่ 1 คือการ เดิน หรือวิ่ง อย่างช้าๆๆๆๆ จะเห็นลักษณะของลำขาหน้า และข้อเท้า อยู่ในแนวเดียวกัน เดินเต๊ะขาหน้าตรงๆ ข้อขาไม่บิดหรือเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ขาหน้าตรงลงมาและขนานกัน ในกรณีนี้ จึงเกิดเป็น รอยเท้าคู่ ถ้าคุณเข้าใจถึงลักษณะการเคลื่อนไหวของสุนัข คุณจะรู้ว่า การเคลื่นไหวอย่างช้าๆ กับการวิ่งนั้น ลักษณะการใช้เท้าของสุนัขจะเปลี่ยนไป คือ 1.เมื่อสุนัขเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เช่นเดินเล่น หรือวิ่งช้าๆ สุนัขจะใช้ขาในลักษณะที่ทะแยงกัน คือ ถ้าสุนัขก้าวเท้าหน้าด้านซ้าย เท้าหลังของสุนัขก็จะใช้ด้านขวา ถ้าก้าวเท้าหน้าด้านขวา ขาหลังก็จะใช้ด้านซ้าย 2.เมื่อสุนัขเคลื่อนที่เร็วขึ้น เป็นลักษณะที่วิ่งเร็ว สุนัขจะใช้ขาในลักษณะ ข้างเดียวกัน คือใช้ ขาแถบเดียวกัน คือ เมื่อสุนัขก้าวขาหน้าด้านขวา ก็จะใช้ขาหลังด้านขวา เมื่อสุนัขก้าวขาหน้าด้านซ้าย ก็จะใช้ขาหลังด้านซ้าย ให้ลองสังเกตุดูเอาเองครับ รูปที่ 2 คือการเคลื่อนที่อย่างเร็ว ขาหน้าทั้งสองข้างจะหุบเข้ามาหากัน ทำมุมเอียงเท่าๆกัน แต่ปลายเท้าทั้งสองจะไม่ขี่กัน มองเห็นเป็นรูปคล้ายๆ ตัว " วี " ปลายตัด แต่ลักษณะของข้อขาก็ยังตรง ไม่บิดเบี้ยวหรือสะบัดออกไป ในกรณีนี้ จึงเกิดเป็น รอยเท้าเดี่ยว ขึ้นครับ หรือเรียกเป็น ภาษา ประกิต ว่า Single track ทำไม? เมื่อสุนัขเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็ว จึงเกิดลักษณะที่ขาต้องหุบเข้าหากัน เป็นเพราะ เพื่อการหลบหลีก ตามล่า ทำให้มีความคล่องตัว ปราดเปรียว เป็นสิ่งที่ธรรมชาติเขาสร้างมาให้กับ สุนัข เพื่อให้สมกับการเป็นนักล่าและหลบหลีกครับ จากรูปที่ 3-5 นั้น เป็นลักษณะการวิ่งที่ผิด ซึ่งลักษณะของการผิดปรกตินั้น จะไปสัมพันธุ์กับเรื่องของโครงสร้างทั้งหมด จะอธิบายไปทีละรูปก็แล้วกันนะครับ รูปที่ 3 รูปนี้เขาต้องการแสดงให้เห็นถึงลักษณะที่เรียกว่า วิ่งแบบ ขากวัก..เข้า..ขากวัก..ออก ตรงนี้จะไปสัมพันธุ์กับเรื่องของ โครงสร้างของขาด้านหน้า ซึ่งได้อธิบายไปแล้วครับ คือ การที่ยืนแล้วขาหน้าเปิดออก ในกรณีนี้ จะเป็นความผิดปรกติของข้อขาล่างลงมาครับ อาจเป็นมาจาก กรรมพันธุ์หรือการเลี้ยงดูก็ได้ ลองกลับไปพิจรณาเรื่องของโครงสร้างขาหน้า แล้วจะเข้าใจได้ดีขึ้นครับ รูปที่ 4 รูปนี้เขาต้องการแสดงให้เห็นถึงลักษณะการวิ่งที่เรียกว่า ขาไขว้กัน ตรงนี้ จะไปสัมพันธุ์กับเรื่องของเรื่องรูปร่างของ อก ที่มีลักษณะที่แคบ และมีมุมกระดูกที่มีลักษณะที่เอียงเข้า เมื่อยืนอยู่เฉยๆ จะมีลักษณะของโครงสร้างของขาหน้า ที่หุบเข้าหากันเป็นรูปตัว " วี " ดังนั้นเมื่อสุนัขเริ่ม วิ่ง ขาก็จะยิ่งหุบเข้าหากันมากขึ้น มาดูว่า ทำไม? สุนัขต้องมีการหักข้อและบิดปลายขาออกไปข้างๆ เมื่อสุนัข ยกขาหน้าด้านหนึ่งขึ้นไป และถีบส่งตัวไปข้างหน้า แล้วก็จะต้องสลับขาหน้าอีกข้างขึ้นไป เมื่อขาหน้าทั้งสองข้างเอียงเข้าหากัน ขาก็จะไขว่กันเป็นรูปตัว เอ็กซ์( X ) สุนัขจึงแก้ปัญหาของโครงสร้างตัวเองโดยการ หักข้อขาและบิดออก เพื่อให้ขาอีกข้างสามารถที่จะสบัดขึ้นมาได้ ดังนั้นรูปแบบการวิ่งของสุนัข จึงวิ่ง แกว่งไป แกว่งมา รูปที่ 5 รูปนี้เขาต้องการบอกว่า หมาวิ่งขาถ่างๆ เหมือนรถ ล้อแบะ ล้อใกล้หลุดเต็มที่แล้วครับ มันก็ไปเกี่ยวกับเรื่องของ มุมกระดูกของช่วงอกแหละครับ รูปนี้เข้าใจง่ายครับ เห็นปุ๊บรู้ปั๊บ หมามันจะวิ่งเหมือนเป็ดว่ายน้ำ ขากาง http://www.bangkaew.com/elearning/mod/forum/discuss.php?d=2485 |
ตอบ: Movement ที่ดีของบางแก้ว ควรเป็นอย่างไร | |
รูปนี้เป็นรูปที่ ผู้จูงต้องจูงสุนัขออกจากกรรมการ ท่านว่ากรรมการต้องการดูอะไร พรุ่งนี้กระผม นายเพื่อนบางแก้วจะมาหลาว ต่อครับ ดอนนี้ก็ เที่ยงคืนกว่าแล้วหนาพี่น้อง...เอ้ย..... ดูรูปที่ 1 จากซ้ายมือ เป็นการเดิน หรือวิ่งอย่างช้าๆๆๆๆ ขาหลังจะอยู่ในแนวขนานกัน มีความห่างของช่องขาอยู่ในระยะที่พอดี ขาทั้งสองข้างไม่บิดเบี้ยว ดูรูปที่ 2 จากซ้ายมือ เป็นการเคลื่อนที่เร็ว หรือเป็นการวิ่ง ขาหลังจะหุบเข้ามา ทำมุมเอียงทั้งสองข้าง เท่าๆกัน ทั้งรูปที่ 1 และ 2 นั้น เป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง เมื่อเราเห็นจากรูปที่ 1-2 ของทางด้านหน้า และด้านหลัง เราก็จะเข้าใจได้ว่า หากสุนัขตัวไหน? ที่มีการเคลื่อนไหวดังที่อธิบายมา เราก็สัญนิษฐานได้เลยว่า สุนัขตัวนั้น มีโครงสร้างที่ถูกต้อง มีมุมของกระดูกข้อต่อต่างๆดี เพราะการที่สุนัขสามารถเคลื่อนไหวได้ดี ก็จะมาจากการที่สุนัขตัวนั้นมีโครงสร้างที่ดี หมายเหตุ แต่ก็มีสุนัขบางตัว ที่มีลักษณะที่โครงสร้างไม่ดี แต่สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้ดี เขาเรียกว่า เป็นข้อบกพร่องที่สมดุลย์ เดี่ยวจะเอามาเล่าให้ฟังอีกครั้งครับ จากรูปที่ 3 ถึงรูปที่ 6 นั้นเป็นการเคลื่อนไหวที่ผิดปรกติทั้งสิ้น จะอธิบายตามลำดับเป็นข้อๆไป รูปที่ 3 จากซ้ายมือ เป็นลักษณะที่สุนัขวิ่งตัวเอียง วิ่งเฉียงไปข้างๆ ซึ่งการวิ่งในลักษณะ เช่นนี้ ไปสัมพันธ์กับเรื่องของโครงสร้าง คือการที่สุนัขมีช่วงลำตัวที่สั้นเกินไป แต่มีมุมมขาหลังมากเกิน ทำให้เกิด การวิ่ง ที่ผิดปรกติ ถ้าต้องการที่จะเลือกเล่น สุนัขที่มีช่วงลำตัวสั้นๆ ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องของมุมขาหลังด้วยครับ รูปที่ 4 จากซ้ายมือ เป็นลักษณะที่วิ่งขาหลังชิด(หนีบ) มากเกินไป ซึ่งการวิ่งเช่นนี้ ก็ไปสัมพันกับเรื่องของสุนัขที่มี..อกแคบ สุนัขจะมี ความกว้างของบั้นท้าย เล็กกว่าช่วงของอก หรือใกล้เคียงกัน ฉะนั้น หากสุนัขมีอกแคบ บั้นท้ายก็จะแคบ(ลีบ) ตามขนาดของอก ฉะนั้น เมื่อความกว้างของบั้นท้ายมีน้อย ช่องห่างระหว่างขามีน้อย เมื่อสุนัขเริ่มวิ่ง หรือเคลื่อนที่เร็วๆ ขาก็จะหุบเข้าหากัน ทำให้ขาชิดกัน(หนีบ)มากเกินไป ข้อคิด หากจะเลือกสุนัขให้เลือกที่มีบั้นท้ายใหญ่ๆ สักนิด ที่นั้นก็ต้องดูเรื่องของโครงสร้างกระดูก ขาหลังด้วย สุนัขบางตัว บั้นท้ายใหญ่ แต่กระดูกข้อขาล่างชิดกัน นั่นก็เป็นลักษณะที่ไม่ดี รูปที่ 5 จากซ้ายมือเป็นลักษณะที่เรียกว่า เป็นข้อวัว คือ ข้อขาหลังชิดกัน และปลายเท้าเปิดออก อย่างนี้ถือว่าไม่ดีอย่างมาก เพราะมีการถ่ายทอดทางพันธุ์กรรมด้วย ลักษณะเช่นนี้เป็นลักษณะที่ มีการผิดปรกติของโครงสร้างกระดูกขาหลัง ในกรณีนี้ก็จะคล้ายกัน ในเรื่องที่ผมอธิบายในรูปที่ 4 เรื่องของ บั้นท้ายใหญ่ แต่กระดูกข้อขาล่างชิดกัน คือ ข้อขา..ล่าง..ชิดกัน ตั้งแต่..ข้อ..ลงมาถึงปลายเท้า และปลายเท้าไม่แยกออกจากกัน แต่ ขา..ข้อวัว..นั้นจะชิดกันเฉพาะตรงข้อขาล่าง ปลายเท้าเปิดออกจากกัน รูปที่ 6 จากซ้าย เป็นลักษณะที่เรียกว่า ขาโก่ง ซึ่งเป็นความผิดปรกติ ของโครงสร้างกระดูกขาหลัง อันนี้ง่ายครับ เห็นปุ๊บรู้ปั๊บ อันนี้จะไม่ค่อยได้เห็นบ่อย แต่เข้าใจง่าย ซึ่งถ้าเป็นคน ก็จะพบเห็นในคนแก่ๆ เดินขาโก่งๆ เพราะเป็นโรคข้อกระดูกเสื่อม นั่นแหละครับ จาก http://www.bangkaew.com/elearning/mod/forum/discuss.php?d=2485 |