ผลการค้นหา: 91

หน้า: (หน้าก่อน)   1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  (ต่อไป)
โดย ไตรสิทธิ์ . - Sunday, 13 February 2005, 12:37PM
 
ได้ลองประมวลความเห็นต่างๆของเพื่อนสมาชิก  มาเป็นร่างข้อเสนอดังนี้
 
(ร่าง)
ชื่อ  ชมรมผู้เลี้ยงบางแก้วแห่งประเทศไทย
วัตถุประสงค์

1 เป็นที่แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมของผู้เลี้ยงบางแก้ว

2 จัดกิจกรรมส่งเสริมและเผยแพร่ข้อมูลด้านวิชาการที่ถูกต้องและการเลี้ยงดูสุนัขบางแก้วอย่างถูกวิธีให้กับสมาชิกและผู้สนใจทั่วไป

3 จัดกิจกรรมอบรมการฝึกสุนัขให้กับผู้เลี้ยงบางแก้ว  และส่งเสริมให้มีการฝึกบางแก้วเพื่อทดสอบ BH Test อย่างกว้างขวาง

4 ส่งเสริมและผลักดันเรื่องจรรยาบรรณในการเพาะพันธุ์และการจำหน่ายจ่ายแจกสุนัขบางแก้ว

5 สนับสนุนโครงการบ้านพักพิงเพื่อสุนัขบางแก้ว  เพื่อดูแลสุนัขบางแก้วที่ถูกทอดทิ้ง


โดย carnivore ...The Alpha Wolf - Tuesday, 8 February 2005, 08:19AM
 

ดีใจที่ทราบว่า  ทุกท่านที่เข้าร่วมเสวนา ต่างมีความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน    และมีแนวคิดที่สร้างสรรค์เพื่อพัฒาสายพันธุ์อย่างแท้จริง     นับว่าเป็นกลุ่มคน หรือชมรมตามอุดมคติของ ผู้เลี้ยงหมาที่ดี  ไม่ว่าจะเป็น บรีดเดอร์  หรือคนที่ซื้อไปเลี้ยงตามบ้าน  ถ้าคิดได้...และ(ที่สำคัญ)ทำได้จริงตามที่คิด  แบบนี้  ไทยบางแก้ว  สายชมรม(ที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ)นี้   จะต้องเป็นไทยบางแก้วสายพันธุ์ที่ดีที่สุด อย่างแน่นอน

ขอสนับสนุนและ ส่งเสริมกิจกรรมทุกอย่างของชมรมฯเท่าที่จะมีโอกาสทำได้ค่ะ   และเห็นด้วยกับคุณอาทรเป็นอย่างยิ่ง  ว่า  แนวทางในการริเริ่มก่อตั้งชมรมฯ       น่าจะเน้นให้ความสำคัญ  กับ  บางแก้วที่ได้เกิดมาและมีอยู่แล้ว   โดยเน้นการ  ให้ความรู้  ความเข้าใจแก่ผู้เลี้ยงในด้านต่างๆให้ดีที่สุด  และเห็นว่าได้ผลดีจริงๆเสียก่อน   จึงจะมาเน้นเรื่องการเพาะพันธุ์

สำหรับสมาชิกที่เป็นบรีดเดอร์อยู่แล้ว  ก็สามารถปฏิบัติตาม หลักจรรยาบรรณในการเพาะพันธุ์ได้เลย      

ขอย้ำในจุดยืนของตนเอง  ในการบริหารจัดการและดำเนินการเรื่องใดๆก็ตาม  จะยึดหลัก กันไว้ดีกว่าแก้  หรือปลอดภัยไว้ก่อน เสมอมา    รวมถึงในเรื่องของการเลี้ยงหมา ฝึกหมา ก็จะยึดหลักว่า...อย่าปล่อยให้หมาทำผิด  แล้วจึงมาแก้ไข,ลงโทษ ทีหลัง   เป็นอันขาด    จะพยายามสร้างสถานะการณ์และสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้หมาทำผิดได้   หมาและเราก็จะอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข

เรื่องของการก่อตั้ง กลุ่มคน หรือชมรม ที่ต้องมีนโยบาย มีกฏ ระเบียบ  มีข้อกำหนดที่สมาชิกต้องถือปฏิบัติร่วมกัน    จึงควรตั้งข้อกำหนด  ในสิ่งที่ดีที่สุด  ถูกต้องที่สุด  สมควรทำที่สุดไว้ให้เป็นแนวนโยบายที่สมาชิกต้องถือปฏิบัติในเบื้องต้น    แล้วจึง พยายามช่วยเหลือ, ส่งเสริม , อุดหนุน ให้ความสะดวกแก่สมาชิก  ให้สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ตั้งไว้ ให้ดีที่สุด   ดีกว่าการที่จะตั้งกฏเกณฑ์ไว้หลวมๆเพราะ คิดว่าทำไม่ได้ หรือทำได้ยาก  แล้วจะมาเปลี่ยนแปลงให้เข้มงวดขึ้นในภายหลัง  ซึ่งจะยิ่งยากขึ้นไปอีก

ขอให้ความคิดเห็นไว้แค่นี้ค่ะ  หวังว่าจะได้เห็น ชมรมนี้ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในเร็วๆนี้ 


โดย carnivore ...The Alpha Wolf - Friday, 7 January 2005, 05:59PM
 

ป้าวิไม่เคยให้หมากินหมู   มีความรู้สึกว่าหมูเขากินอาหารสาระพัดไม่เลือก  ไม่เหมือนไก่  กับวัว/ควาย   ก็เลยไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับหมูค่ะ 

เรื่องไก่นี่ ก็ไม่รู้จะว่าไง  หมาป้าวิกินมาตลอดเลยนะคะ ไข้หวัดนกระบาดก็กิน    (ตอนที่หยุดกินไปพักนึงนั่นก็เพราะรัฐบาลสั่งปิดโรงงานชำแหละในพื้นที่สีแดงชั่วคราว   ช่วงระบาดหนัก)  แต่ไม่ได้ไปซื้อตามตลาด   จะซื้อของที่เป็นแพค ออกมาจากโรงงานชำแหละใหญ่     

ถ้าไม่ไว้ใจไก่ดิบ ก็...นี่เลย  เนื้อโคขุน กำแพงแสน  ถ้าเป็นช่วงที่จะ"ขุน"หมา   จะกินดีมากเลย   สอบถามได้ที่ป้าชัช  เพราะป้าวิไปซื้อครั้งแรก ป้าชัชเป็นคนพาไปค่ะ  

ทุกวันนี้จะให้หมากินสลับเวียนกันไป มีพวก   โครงไก่ ,  ปีกเต็มไก่ ,  ตะโพกติดกระดูก , (มีตับสดบ้างอาทิตย์ละ 1-2 อัน)  พวกปลาดิบ ก็มีปลาซาบะ , ปลาไข่ , ปลาทู , แล้วก็เนื้อโคขุนก็มี ซี่โครงวัวติดเนื้อ , เนื้อสัน  และเศษเนื้อ(จากการแต่งชำแหละ) จะได้มีแหล่งโปรตีนหลากหลายค่ะ   หมาก็จะมีสุนทรีย์ในการกิน   ได้ดม ได้เคี้ยว ได้แทะ ได้ดึงทึ้ง  ทำให้อารมณ์ดี  มีความสุขด้วยค่ะ   ไม่ได้ให้กินทุกอย่างทุกวันนะคะ  ให้กินให้หมดทีละล้อท เป็นอย่างๆไป        

นอกจากเมนูจานหลักที่บอกมาข้างบน    ก็ยังมีการเสริม สารอาหารเบต้าแคโรทีนธรรมชาติ เช่น ฟักทอง แครอท ข้าวโพด ผักคะน้า มะเขือเทศ ฯลฯ นึ่งแล้วปั่นละเอียด ให้กับโยเกิรต   สักอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง  ถ้าขี้เกียจก็ 2-3 อาทิตย์ครั้งก็ได้ 

นอกจากโปรตีนกับเบต้าแคโรทีนแล้ว ก็ยังมีวิตามิน เกลือแร่ ต่างๆ ที่อยู่ในผักผลไม้สด   ถ้าหมาไม่กินผักผลไม้  เราก็เสริมวิตามินเม็ดเอาดื้อๆเลยก็ได้ค่ะ ป้าวิให้วิตามินซี และบริวเวอร์ยีสท์  บางทีก็ให้น้ำมันปลา ด้วย 

ใครว่าอะไรดี...และคิดแล้วว่ามันน่าจะดีจริง ก็เอาให้หมากินหมดแหละค่ะ  อ้อ..อาหารทุกมื้อ จะหยอดน้ำส้มหมักแอปเปิ้ลไซเดอร์(เน้นว่า ต้อง "with the mother")  ซึ่งเป็นน้ำสกัดชีวภาพประเภทหนึ่ง ลงไปสัก 1 ฝาชวด(น้ำส้ม)  เพื่อช่วยปรับสมดุลย์ในร่างกาย  และมีสรรพคุณครอบจักรวาล...(ความจริงเขาทำมาให้คนกิน   ตอนนี้เห็นว่ากำลังฮิตกันมาก  ป้าวิเอาให้หมากินมาหลายปีแล้ว)

การให้อาหาร   จะยึดหลักเลียนแบบธรรมชาติ มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  ให้หมากินอาหารที่เป็นไปตามธรรมชาติดั้งเดิมของเขาเป็นหลัก  และเสริมสิ่งที่เขาหากินเองไม่ได้อย่างที่เขาใช้ชีวิตตามธรรมชาติของเขา  เช่นวิตามิน แร่ธาตุ หรือเอนไซม์หลายชนิด  เขาไม่สามารถหากินได้เอง  เหมือนเวลาล่าเหยื่อได้  แล้วได้กินพืชที่ย่อยแล้วในกระเพาะของเหยื่อ....บางครั้งถ้าโชคดี  ได้หญ้าในกระเพาะวัวมาให้เขา   หมาจะชอบกินกันมากทุกตัว

อ้อ...เรื่องท้องเสีย  ไม่เคยปรากฏนะคะ  หมาที่ป้าวิรับเข้ามาอยู่ด้วยที่อายุมากๆแล้ว  เกิดมาไม่เคยกินของแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต  ก็กินได้เลยทันที  ไม่มีอาการท้องเสียค่ะ


โดย ป้าชัช swine - Wednesday, 5 January 2005, 05:04AM
 

ดีใจที่คุณเพื่อนฯ และเพื่อน ๆ นักเพาะพันธุ์อีกหลายท่านเข้ามาแสดงความจำนงและให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับจรรยาบรรณนี้หลายครั้ง แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบางแก้วอย่างแท้จริง

น่าตกใจตัวเลขจดทะเบียนบางแก้วปีที่แล้วมีถึง 1000 กว่าตัว แต่ที่เห็นมีคนเข้ามาพูดคุยกันในนี้ถึงลูกบางแก้วที่เลี้ยงอยู่ประมาณสัก 10 ตัวได้ (อายุประมาณ 1 ขวบถึงขวบครึ่ง) เช่น นีโอ แตงโม ตังเม ลูกตาล ฯลฯ นอกจากนั้นคงมีที่ไม่ได้จดทะเบียนกับชมรมอีกมาก ป้าชัชว่าปี ๆ หนึ่งมีลูกบางแก้วเกิดมาสัก 2-3000 ตัวได้ไหมนี่ นี่แหละที่พวกเรา (ทั้งบรีดเดอร์และผู้เลี้ยง) ต้องมีจรรยาบรรณเพื่อคัดสรรบางแก้วให้มีคุณภาพมากขึ้นและลดประชากรบางแก้วให้น้อยลง และการขายเหมาคอกเพื่อให้พ่อค้านำไปขายตามสวน หน้าวัด หรือตลาดนัดต้องเลิกทำ ปัญหาที่ตามมา คือ คนซื้อจะหาบางแก้วมาเลี้ยงได้โดยสะดวกจากที่ไหน ถ้าไม่ไปหาซื้อตามสถานที่ข้างต้น บ้านโชกุน หรือคอกอื่น ๆ ช่วยกันออกความเห็นว่าจะจำหน่ายจ่ายแจกลูกบางแก้วที่ดี ๆ ของตนเองพร้อมกับความรู้เรื่องการเลี้ยงดูที่ถูกต้องไปสู่ผู้เลี้ยงที่ต้องการได้อย่างไร ทั้งโดยการขายตรงหรือผ่านพ่อค้า 

ป้าชัชเห็นด้วยเรื่องการให้ความรู้กับผู้ซื้อให้มาก ๆ ทั้งในรูปของการใช้เว็บบอร์ดเป็นสื่อกลาง การเขียนบทความเรื่องวิธีการหาซื้อลูกบางแก้วที่ถูกต้องลงในนิตยสารต่าง ๆ ของคุณจิตติและท่านอื่น ๆ รวมทั้งการผลิตและแจกเอกสารให้ผู้ซื้อทุกคน ซึ่งในเอกสารควรมีที่อยู่/เบอร์โทรของคณะกรรมการและสมาชิกชมรมฯที่สามารถให้ความรู้เพิ่มเติมหรือคำปรึกษากับผู้เลี้ยงมือใหม่ได้ สำหรับการผลิตเอกสารเกี่ยวกับการเลี้ยงดูแจกผู้ซื้อ ป้าชัชว่ารวบรวมจากคุณเพื่อนฯ เขียนตอบบ้าง คุณป้าวิ คุณสุนา คุณน้อยหน่า และอีกหลายท่านเขียนเล่าถึงวิธีการจัดการลูกของตัวเองอย่างไรบ้าง มาประมวลกันและเรียบเรียงใหม่ (อย่าลืมการอ้างอิงผู้เขียนเดิมด้วย)

คุณเพื่อนฯ อย่าน้อยใจไปเลย คุณและหลาย ๆ ท่านมาถูกทางนานแล้ว การขยับครั้งนี้ เป็นย่างก้าวสำคัญของบางแก้วนะ เพราะเรากำลังเขยื้อนภูเขา (ให้ความรู้ผู้เลี้ยง) งานจึงหนักหน่อยจ๊ะ 


โดย Pingpong \(-_-)/ - Friday, 24 December 2004, 11:24AM
 

เห็นด้วยกับคุณเพื่อนบางแก้วและป้าชัชครับ   แทนที่จะบอกว่าเป็นจรรยาบรรณของการขายอย่างเดียว    อาจใช้ชื่อให้กว้างขึ้นว่าเป็น  จรรยาบรรณในการเพาะพันธุ์และการซื้อขายสุนัขบางแก้ว  โดยผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบด้วย   โดยผู้ขายหลังจากที่อธิบายหลักแห่งจรรยาบรรณให้ผู้ซื้อฟังจนผู้ซื้อเข้าใจและยอมรับได้แล้ว    ผู้ขายจะมอบจรรยาบรรณชุดเดียวกันนี้ให้ผู้ซื้อนำไปติดไว้ที่บ้านเป็นเครี่องเตือนใจสำหรับตนเองและญาติพี่น้อง   และทางชุมชนคนรักบางแก้วยินดีขึ้นทะเบียนผู้เลี้ยงที่มีจรรยาบรรณให้เป็นกำลังใจและเป็นตัวอย่างสำหรับผู้เลี้ยงท่านอื่นๆด้วย

ในหัวข้อ การขาย (Sales)  ก็จะแก้เป็น การซื้อขาย โดยระบุจรรยาบรรณของผู้ซื้อไว้ด้วย   แต่จะระบุอย่างไร   ช่วยกันเสนอหน่อยครับ

ผมลองอ่านร่างที่ยกมาอีกที   รู้สึกว่า บางข้ออาจจะมีปัญหายุ่งยากในทางปฏิบัติ  เช่น เรื่องการซื้อขายสุนัขบางแก้วที่เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน  ไม่ได้เอาไปประกวด  อาจไม่จำเป็นต้องมีเอกสารรับรองพันธุ์ประวัติ   แต่ต้องมีเอกสารรับรองการทำหมัน    ไม่รู้จะทำกันได้หรือเปล่า   ช่วยกันออกความเห็นที่สามารถปฏิบัติกันได้หน่อยครับ

คำถามคงไม่ใช่ว่า ร่างจรรยาบรรณที่ยกมานี้ เหมาะหรือไม่เหมาะ  แต่อยากให้แสดงความเห็นว่า  ถ้าจะให้เหมาะและทุกคนยอมรับนำไปปฏิบัติได้  จะต้องแก้ไขข้อความตรงไหนอย่างไร 

ท่านใดไม่สะดวกที่จะออกนาม    ก็ขอให้ใช้ชื่อและรหัสเป็น test  และ test  ได้เลยครับ


โดย ชัยรัตน์ แซ่เจี่ย - Monday, 29 November 2004, 03:10PM
 

เมื่อวันเสาร์ที่27/11ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเยี่ยมเจ้าเปเล่ที่ศูนย์ฝึกย่านปากเกร็ดพร้อมกับเจ้าเมเม้ เดินทางโดยรถแท๊กซี่ใช้เวลาเดินทางประมาณ1 ช.ม. เมื่อไปถึงเมเม้แสดงอาการตื่นเต้นดีใจอย่างเห็นได้ชัด ตะลีตะลานจะรับลงจากรถให้ได้ เมื่อสองคู่หูได้เจอกันก็หวิดจะวางมวยกัน เพราะเจ้าเมเม้แสดงอาการข่มเจ้าเปเล่ โชคดีว่าเปเล่ยอมอ่อนข้อให้มิฉะนั้นคงจะได้วางมวยกันแน่ๆ ในตอนแรกเปเล่ยังแสดงอาการไม่ไว้วางใจสักเท่าไหร่..แต่พอจำได้ก็แสดงอาการดีใจกระโจนเข้าหานายหน้าตี๋ เท่านั้นยังไม่พอยังได้ฝากรอยรักไว้ที่ท่อนแขนเป็นที่ระลึก โชคดีว่าไม่เข้า ไม่งั้นคงโชคเลือดกลับบ้านแน่ แต่เปเล่ดูจะฟังคำสั่งได้ดีกว่าเมเม้ พูดรู้เรื่องกว่า สั่งไม่คือไม่ ซึ่งต่างจากเมเม้อย่างสิ้นเชิง แต่เปเล่ก็มีความผิดปกติทางด้านร่างกาย คือ ขาจะกางออกมากกว่าปกติ เวลาเดินหรือวิ่งจะสังเกตุได้อย่างชัดเจน เวลาจูงเดินหรือวิ่งจะทิ้งตัวไปทางด้านซ้าย ทำให้เสียศูนย์ในการเดินเล็กน้อย สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือไม่ก็เกิดจากโดนแม่ทับตอนให้นมในตอนเด็ก ซึ่งยังไม่สรุปได้แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด คงต้องรอคำวินิจฉัยจากสัตวแพทย์ก่อนตอนนี้ยังคงทำอะไรได้ไม่มาก ได้แต่ภาวนาขอให้เปเล่กลับมาเดินได้อย่างปกติอีกครั้ง ถ้ามีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ขอกำลังใจให้เจ้าเปเล่ด้วยนะครับ.....


โดย หมาบางแก้ว return - Thursday, 18 November 2004, 09:57AM
 

กระทู้(ปรึกษา)และหลาย ๆ ความคิดเห็นที่น่าสนใจครับเห็นด้วย

1. สุนัขบางแก้วปกติ(ที่ไม่ได้มีปัญหาทางด้านร่างกาย)  จะไม่เป็นอย่างที่เจ้าของกระทู้เล่าให้อ่านครับ  ผู้เลี้ยงคงต้องวิเคราะห์แล้วล่ะครับข้อผิดพลาดครั้งนี้เกิดจากอะไร

2. ด้านการรักษา  ถ้ารักเค้าจริง(อย่างที่บอกในข้อ 1)  ก็ควรหาตำราต่าง ๆมาอ่าน  ไม่มีใครให้คำปรึกษาเพื่อการตัดสินใจได้ครับ  แต่มีข้อแนะนำได้ก็คือ

3.ในหนังสือ "หมาไม่ใช่ฆาตกร" ของท่านอาจารย์หมอปานเทพ รัตนากร หน้า 70-71 มีข้อแนะนำ  ที่เจ้าของกระทู้ต้องกระทำไว้ครับ  ช่างคิดหัวเราะอ่านที่หน้า 71 แล้วทำความเข้าใจอย่างแท้จริง  ก็ไม่ต้องไปขอคำปรึกษาจากที่ไหนหรอกครับ  หมาฆาตกรยังมีแนวทางการรักษาและเลี้ยงดู  สุนัขบางแก้วตัวน้อยที่ถูกช่างคิดคาดการณ์ว่าจะทำร้ายครอบครัวของผู้เลี้ยงดูอีก(สาเหตุเพราะอะไร???????????)  ก็ไม่น่าจะยากในการทำตามคำแนะนำนี้ครับ

- ในหนังสือพฤติกรรมสุนัขและแมว(กล่าวไว้หลายครั้งแล้วครับ) มีวิธีการรักษารวมทั้งการให้ยา   ผู้เลี้ยงสามารถหามาอ่านได้เอง  เพราะจะทำให้เราเข้าใจในพฤติกรรมสุนัขที่เลี้ยง  ถ้าเกิดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์แล้ว  จะมีวิธีการปฏิบัติให้เค้าอย่างไร(ในแนวทางการรักษาจากสัตวแพทย์ครับ)

4. การนำเค้าไปฝึก(กับคนอื่น)ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูก  เมื่อนำเค้ากลับมาบ้าน  สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง  การนำไปฝึกก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไร   ควรหาสาเหตุให้เจอ  ต้องปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมหรือไม่ การเลี้ยงดูผิดพลาดอย่างไร ฯลฯ  แก้ไขส่วนนี้ก่อน  และถ้าจะรักษา  เจ้าของก็ต้องร่วมมือกับสัตวแพทย์ในการทำพฤติกรรมบำบัดครับ

5.  สัตวแพทย์ที่มีจรรยาบรรณ  คงไม่มีใครที่ร่วมมือในการเมตาฆาตหรอกครับ  การรักษาก่อนเป็นสิ่งที่พึงกระทำ (ถ้ารักเค้าจริงตามที่กล่าวอ้างใจตรงกัน) รักษาไม่ไหวจริง ๆ  ท่าน(สัตวแพทย์)ก็จะบอกกับเจ้าของ  แล้วทั้งหมดก็จะอยู่ในดุลยพินิจของผู้เลี้ยง(ยังมีทางเลือกได้อีก  ไม่ใช่มีทางออกทางเดียว เพียงแค่ส่งเค้าไปเกิดใหม่ครับมารร้าย)   เมตาฆาตน่าจะกระทำก็ต่อเมื่อ  สุนัขเป็นฆาตกร(ฆ่าคน)และรักษาไม่ได้  หรือสุนัขของเรามีอาการเจ็บป่วยทางกาย(โรคร้าย)หรือชราภาพอย่างหนัก(จนทำอะไรไม่ได้)  นั่นคือสภาพเค้ามีความทรมานอย่างแสนสาหัสครับ   

ลองค้นหาอ่านและทำดูก่อนนะครับ  ทุกอย่างมีขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์  ขบวนการตัดสินใจของเจ้าของกระทู้เป็นอย่างไรในการแก้ปัญหานี้  ขอความกรุณาช่วย post ให้อ่านด้วย  จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ  ยิ่งในกรณีที่รักษาแล้วทำให้เค้ากลับมาเป็นสุนัขอารมณ์ดีอีกครั้ง  จะได้เป็นกรณีศึกษาให้กับท่านอื่น ๆ  ได้ใช้แก้ปัญหาต่อไป

เขียนผิดพลาดไป  อาจจะทำให้ไม่พอใจ  ก็ขออภัยไว้ก่อนครับเสียใจ


โดย carnivore ...The Alpha Wolf - Tuesday, 9 November 2004, 10:39PM
 

งานที่สวนสามพราน   ทางสมาคมเชพเพอด ก็มีจัดแข่งอารักขา  แข่งอกิลิตี้  และประกวดพันธุ์ด้วย  ป้าวิคงต้องจัดกิจกรรมรวมอยู่กับกลุ่มเชพเพอด  เพราะต้องดูแลหมาที่จะลงแข่งอารักขา  แข่งอกิลิตี้ และหมาประกวดด้วย   คงมาช่วยเฝ้าเต้นท์ให้ไม่ได้มังคะ

เท่าที่ทราบ  ทางสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย  (ที่ป้าวิไปยืมบอร์ดเขามา...ไม่ใช่สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์)   เขาไม่ไปงานสวนสามพรานนะคะ   เพราะเขาต้องออกงานสนามไปช่วยเหลือสัตว์ตามที่ต่างๆที่ได้รับแจ้งมาตลอดเวลา

ถ้าสนใจจะช่วยรณรงค์เรื่องการสนับสนุนร่างพรบ.ฉบับที่ว่า...ก็ลองติดต่อสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย     แต่จะต้องมีคนรับผิดชอบดูแลของที่ยืมมา   และอำนวยความสะดวก  ให้แก่ผู้ที่สนใจเข้ามาสอบถามและร่วมลงชื่อ    เป็นเรื่องค่อนข้างยุ่งยากเหมือนกัน  ต้องคอยชักชวนให้คนสนใจ  คอยตอบคำถามและชี้แจงเรื่องต่างๆ    คอยจัดเตรียมแบบฟอร์ม ถ่ายเอกสารบัตร ฯลฯ

คิดว่าคงไม่มีใครมีเวลามาดูแลเรื่องแบบนี้(นอกจากจะเกณฑ์ลูกๆหลานๆมาผลัดเปลี่ยนเวียนกันช่วยงาน  เป็นการกุศล) 


โดย น้อยหน่า ('.' ) - Monday, 8 November 2004, 07:09PM
 

จำเรื่องขนที่ว่าจะเล่าให้อ่านป่ะ

เดือนกว่ามานี้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงขนของนีโออีกครั้งแล้ว ... จำกระทู้เก่าที่เว็บคุณโป๋ได้ป่ะที่เราพูดถึงโคนขนของเจ้าตัวยุ่งทำไมมันมีสีดำตรงโคนขน ... ทำให้เรากังวลอยู่พัก

เดือนกว่ามานี่.. โคนขนที่เป็นสีดำ มันหายไปไหนเรา งง จัง รึว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของขนที่เค้าจะข้ามเข้าสู่วัยอีกวัยนึงของเค้าอ่ะ จับแปรงขนก็แหวก ๆ ดูของเราไปเรื่อย อยากรู้จังหมาบ้านอื่น ขนเค้าเป็นอย่างงัยบ้าง

อยากรู้จังว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้เปลี่ยนแบบนี้ อาหาร อาหารเสริม ? หรือการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของเค้าเอง -- จะรอดูการผลัดขนครั้งหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก


โดย carnivore ...The Alpha Wolf - Wednesday, 3 November 2004, 06:26PM
 

หลานๆ ในพันทิพ คือ คุณ Golden Fever และคุณ changsim น่ะค่ะ ช่วยติดต่อทางสมาคมให้ป้าวิอยู่  วันนี้ยังไม่ได้ตามเรื่อง เพราะออกไปข้างนอกเพิ่งกลับ  โทรศัพท์ก็ลืมเอาไป   ทราบว่า วันเสาร์ทางสมาคมฯต้องเดินสายไปที่อื่น ป้าวิขอยืมบอร์ดรูปหมาท่าแร่ เอาไว้  ถ้าสมาคมฯโอเค ป้าวิจะได้ไปขนมาเองวันศุกร์  ขอบคุณ  คุณน้องต๋าว มากๆเลยค่ะ ถ้าจะกรุณาติดตามเรื่องให้ป้าวิด้วยอีกคน

และได้ติดต่อคุณ มีนะ กะ กาโม่ ไว้ด้วย ให่จัดบอร์ด รูปภาพและเรื่องราวของหมาจรจัด   กับป้าๆผู้ใจบุญแต่จนเงินทั้งหลายมาตั้งแสดงผลงาน  พร้อมกล่องรับบริจาคด้วยค่ะ  ป้าวินัดจะไปรับบอร์ดในวันศุกรพร้อมกับของสมาคมฯเลย(ถ้ายืมได้)

ส่วนเรื่องการรวบรวมรายชื่อ  ป้าวิจัดเตรียมแบบฟอร์มเปล่าไว้ให้  พร้อมตรายาง รับรองสำเนาถูกต้อง  เพื่อยื่นร่าง พรบ.ป้องกันการทารุณสัตว์  เอาไว้ให้  จะหาเครื่องถ่ายเอกสารไว้ด้วย  ใครที่ดูบอร์ดและทราบเรื่องราวแล้ว  ต้องการร่วมลงชื่อ  จะได้จัดการให้เรียบร้อยได้ทันทีตอนนั้นเลย

ต้องการอาสาสมัคร ช่วยกรอกแบบฟอร์ม  ช่วยถ่ายเอกสารบัตรปจต.  ช่วยปั๊มตรายาง  และทำบันทึกรวบรวมรายชื่อ ฯลฯ ค่ะ


หน้า: (หน้าก่อน)   1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  (ต่อไป)