ในช่วงที่มีการชุมนุมใหญ่ปิดกรุงเทพของกลุ่ม กปปส นั้น ผมเคยคุยกับเพื่อนที่ทำงานว่า
date: Thu, Jan 16, 2014 at 7:35 AM
subject: Re: เชิญร่วมกิจกรรม 2เอา 2ไม่เอา
.........ผมอยากสรุปสั้นๆว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้หมายความว่าจะทำชั่วได้โดยถูกต้อง ประชาชนมีสิทธิ์ลุกขึ้นมาชุมนุมขับไล่ในแนวทางสันติเพื่อไม่ให้รัฐบาลนั้นสามารถดื้อด้านอยู่ต่อไป
ในประเทศที่ระบบการเมืองและสังคมมีการพัฒนา สื่อมวลชนไม่ถูกครอบงำจากรัฐ สามารถตรวจสอบกันได้ อย่างประเทศญี่ปุ่น ถ้ารัฐบาลเขาถูกจับได้ว่าทำผิด เขาไม่หน้าหนาพอที่จะอยู่ต่อ แต่รัฐบาลยิ่งลัก ลักไก่สอดไส้ เสียบบัตรแทนกัน ถูกจับได้ มวลชนเริ่มชุมนุมคัดค้านร่างพรบ.นิรโทษกรรม ก็ทำเพียงแค่ถอนร่างจากสุดซอยมาต้นซอย ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าผิด ก็ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล พอมวลชนชุมนุมขับไล่มากขึ้น รัฐบาลยิ่งลักถึงยอมจำนนทิ้งไพ่ใบสุดท้ายยุบสภาเพื่อขอจัดการเลือกตั้งใหม่โดยมองว่าตนเองยังมีสามารถครอบงำสังคมและมีอิทธิพลเหนือสื่อมวลชนและราชการ
ถ้าเป็นประเทศญี่ปุ่น รัฐบาลที่ทำผิดอย่างโจ่งครึ่มแบบนี้ โอกาสที่จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกแทบจะไม่มีเลย เพราะอะไร ทำไมเราไม่เชื่อว่า การเลือกตั้งของเราจะบริสุทธิ์ยุติธรรมเหมือนในประเทศญี่ปุ่น
ผมเคยเสนอในเว็บไซต์พันทิปและเว็บไซต์มีชัยตั้งแต่สมัยพันธมิตรชุมนุมขับไล่ระบอบทักษิณว่า ต้องมีการปฏิรูปภาษีที่ดินและภาษีมรดกเหมือนในประเทศญี่ปุ่นเพื่อลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน อันจะนำไปสู่การลดช่องว่างทางการศึกษาและเกิดความเป็นธรรมในสังคมขึ้นในที่สุด และเมื่อนั้นระบบการเลือกตั้งจึงจะสามารถทำหน้าที่ของมันได้อย่างถูกต้อง เสียดายที่รัฐบาลทักษิณที่มีเงินทองมีอำนาจล้นฟ้าในขณะนั้นไม่คิดกระจายรายได้โดยการปฏิรูปภาษีที่ดินและภาษีมรดก แต่กลับเอาเงินในอนาคตของประทเศมาแจกจ่ายตามแนวทางประชานิยมโดยขาดความรับผิดชอบ
รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้พยายามยกร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีที่ดินและภาษีมรดก แต่ก็แผ่วไปด้วยคงเห็นว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กปปส.โดยกำนันสุเทพ ก็ไม่กล้าชูประเด็นเรื่องนี้ ด้วยคงเกรงว่า ชนชั้นกลางที่เป็นกำลังสำคัญในขณะนี้จะไม่เห็นด้วย คงเก็บไว้เป็นเรื่องที่จะคุยกันอีกทีในสภาประชาชนในภายหลัง
ผมไม่คิดว่ากำนันสุเทพจะบริสุทธิ์ผุดผ่องเทียบเท่าลุงจำลองผู้นำพันธมิตรครั้งก่อนซึ่งเสียดายว่าครั้งนี้ต้องไปนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล กำนันสุเทพเลยต้องขึ้นมาแบกรับภารกิจทางประวัติศาสตร์นี้ไม่ว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม และก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่มาร่วมชุมนุมจะถูกกำนันสุเทพหลอก ผมคิดว่าต้องเคารพในจุดยืนของผู้ร่วมชุมนุมแต่ละคนด้วย ผมประกาศจุดยืนของผมโดยไปร่วมชุมนุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 ธ.ค 56 โดยเดินแบกป้ายสนับสนุนปฏิรูปภาษีที่ดินและภาษีมรดก จากอ่อนนุช ผ่านเวทีอโศก เวทีราชประสงค์ เวทีสยาม แล้วนำไปปักไว้ที่สวนหย่อมหลังเวทีอนุสาวรีย์ ซึ่งในวันนั้น ไม่เห็นมีใครแบกป้ายประกาศเจตนารมณ์เท่าไหร่ แต่มาวันนี้ในวันที่มีการ Shutdown Bangkok, Restart Thailand น่าดีใจว่ามีคนแบกป้ายแสดงจุดยืนมาอย่างหลากหลายมากขึ้น แม้จุดยืนจะแตกต่างกันบ้าง แต่จุดร่วมที่ทำให้ทุกคนออกมาชุมนุมกัน คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ต้องการมาโค่นล้มระบอบทักษิณ
Inline image 1
และเพื่อไม่ให้ชนชั้นกลางที่มีทองเท่าหนวดกุ้งต้องนอนสะดุ้งด้วยความกังวล
ผมได้เสนอว่า กลุ่มที่อยู่ในข่ายคือ คนส่วนน้อยที่ชอบสะสมทรัพย์และที่ดินเกินจำเป็น โดยไม่ให้กระทบกระเทือนคนส่วนใหญ่ เช่น 50 ไร่ และ 50 ล้าน ขึ้นไป
คุณมีชัย เคยตอบผมบนเว็บไซต์ว่า ไม่ว่าจะออกกฏหมายอย่างไร คนรวยก็สามารถจ้างทนายเก่งๆมาหาทางหลีกเลี่ยงภาษีได้
แต่ผมคิดว่าเป้าหมาย อาจไม่ได้อยู่ที่การรีดภาษีจากคนรวยเป็นหลัก แต่น่าจะอยู่ที่การเปลี่ยนทัศนคติและค่านิยมในเรื่องการสะสมทรัพย์และที่ดิน แทนที่จะเสียเวลามาแข่งกันรวย จะได้เอาเวลามาเหลียวมองสังคมรอบข้างบ้าง
ผมชอบคำพูดที่เพื่อนๆฝากมาในไลน์ซึ่งน่าจะใช้เป็นแนวทางในการอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาให้เป็นคนดีมีความสุขในสังคมต่อไปได้
Do not educate your child to be rich. Educate him to be happy. So when he grows up, he‘ll know the value of things, not the price.
http://www.bangkaew.com/elearning3/mod/forum/discuss.php?d=1907