กล่าวกันว่าพาหมามาหาหมอนี่หมอฟังจากที่คนไข้เล่า 70% หมอตรวจเอง 30 % ดังนั้นจะเห็นว่าข้อมูลจากการเล่าของเจ้าของสัตว์ที่เล่าให้หมอฟังนั้นมีประโยชน์มาก แล้วอะไรบ้างที่ควรเก็บข้อมูล (หากทำได้) ก่อนไปพบหมอ..
- เก็บรายละเอียดของอาการที่เป็นให้มากที่สุด เช่น เป็นมากี่วัน อาการเป็นยังไง มีอาเจียน ท้องเสีย ถ่ายเป็นลักษณะแบบไหนมีมูกปนไม๊ มีเลือดปนไม๊ เหงือกซีดเปล่า จมูกแห้งไหม ไอ จาม ชักแบบไหน ยังไง...มีไรบอกหมอให้หมดเลย
- ประวัติการทำวัคซีน / ฉีดยาฆ่าเห็บ / พยาธิหนอนหัวใจ มีไรเล่ามาให้หมด ยิ่งเอายี่ห้อ รุ่นของวัคซีนมาให้ดูด้วยยิ่งดี ... วัคซีนเองก็มีหลายเกรดนะคร๊าบบ ของห่วยก็มีเยอะในตลาด คนทั่วไปไม่รู้หรอก
- 2-3 วันก่อนพบปัญหา สุนัขไปทำไรมาบ้างรึเปล่า บางโรคอาจต้องย้อนไปถึง 2 สัปดาห์ก็มี เช่น ไข้หัด ลำไส้อักเสบ
- สิ่งแวดล้อม...หลายๆปัญหาเกิดจากสิ่งแวดล้อม เช่น สุนัขชอบแทะขอบบัวที่บ้าน...จนได้รับสารพิษ หากหมอไม่ถามสิ่งแวดล้อม เราก็แนะเสริมหมอได้ครับ เพราะสุนัขเล่าอาการเองไม่ได้ เจ้าของจะรู้นิสัยของเค้าดีสุด ว่าชอบไปทำพิเรนยังไง ที่ไหน มีไรก็เล่าให้หมด เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัยนะครับ
- การไปหาหมออย่าเกรงใจที่จะถามหมอ อยากรู้ไรถามไปเลย หมออาชีพจะไม่มีการโวยวายคนไข้ แถมจะอยากอธิบายเรื่องต่างๆ (ถ้าไม่มีคนไข้รอนะ) ต่างจากพวกอาชีพหมอที่นอกจากจะไม่ค่อยพูดแล้วยังชอบรับตังค์มากกว่า...
- หมอให้ยาไร ฉีดยาไร ถามหมอให้หมดก็ดีครับ ยากินที่ให้มาก็ให้เขียนมาเลยว่าเป็นยาแก้อะไร ยาชื่ออะไร มันเป็นสิทธิของผู้ป่วย และหมาไข้ที่พึงจะรับรู้ และไม่ผิดที่จะถามหมอนะครับหากหมอไม่เขียนก็บังคับให้เขียนซะ
- หากเราต้องการความคิดเห็นของหมอท่านอื่นเพิ่มเติม เราสามารถขอผลและรายละเอียดการรักษาทุกอย่างไปให้หมอท่านที่ 2, 3 ... เพื่อช่วยในการออกความเห็น วินิจฉัยได้...อย่าลืมว่าหมอก็คน เพราะฉนั้นความผิดพลาดมันก็มี หากเป็นไรร้ายแรง หรือไม่แน่ใจให้ปรึกาาหมอท่านอื่นดู เพื่อประโยชน์ของสุนัขท่าน
- หากเปลี่ยนหมอหรือย้ายที่รักษา ควรนำยาและประวัติของการรักาาไปให้หมอคนใหม่ดูด้วย จะได้ไม่ต้องนับ 1 ใหม่นะครับ
....แล้วจะมาเขียนเล่าเรื่องอื่นๆให้ฟังอีก...จะค่อยๆลึกขึ้นแล้วกันครับ...วันนี้เอาแค่เบสิคก่อนนะ