สำหรับบุญรอด ตั้งใจอยู่ว่า รับมารักษา จนแกเดินเหินช่วยตัวเองได้ แบบ ปุยฟ้า เพราะสภาพแรกเจอ ไม่ต่างกัน และบุญรอดยังเป็นเหตุการณ์เพิ่งเกิด ส่วนปุยฟ้านอนพิการเดินไม่ได้มาระยะหนึ่งแล้ว เรายังสามารถดูแลรักษา ฟื้นฟู จนลุกเดินวิ่งได้ สมบูรณ์แข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดีเหมือนหมาปกติได้ และถ้าไม่มีใครรับเลี้ยง ก็จะรับอุปการะไปก่อน
ปุยฟ้า เป็นแรงบรรดาลใจ และกำลังใจสำคัญ ที่ทำให้พวกเรา พยายามช่วยเหลือสัตว์ที่คนทั่วไปมองว่า หมดหนทาง ไม่มีประโยชน์ที่จะช่วย ให้พวกมันกลับมามีชีวิตตามปกติที่มันควรจะเป็น
ต่างคนต่างความคิด ต่างมุมมองค่ะ แต่ไม่ว่าจะมองมุมไหน ควรจะมองในทางบวก และ มองให้ลึกเข้าไปถึงสาเหตุของปัญหา และแนวทางป้องกันแก้ไข ที่ สร้างสรรค์ให้เกิดสิ่งดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้าง
ส่วนตัว คิดว่า พวกเราทุกคน รู้กันดี และปฏิเสธไม่ได้ ว่าต้นเหตุของปัญหา หมาบางแก้วถูกทิ้ง (ทั้งก่อนและหลังพิการ)เกิดมาจากอะไร
พวกเรา ก็ควรจะ ร่วมกัน รณรงค์ เพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง และป้องกัน ไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นมาอีกซ้ำซาก สืบต่อไป
และ ร่วมมือกันช่วยแก้ไข บรรเทาปัญหาที่กำลังมีอยู่ไปด้วยพร้อมกัน เท่าที่จะทำได้ ตามศักยภาพของแต่ละคน แต่ละกลุ่ม แต่ละองค์กร เช่น ที่พวกเราทำอยู่ คือการติดตามช่วยเหลือหมาถูกทิ้ง , การช่วยให้คำแนะนำ ช่วยเหลือเจ้าของที่หมามีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ และอื่นๆ ฯลฯ
ซึ่งเรารู้ดีว่า มันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่เราก็ยังพยายามทำ เท่าที่สามารถจะทำได้ให้ดีที่สุด เพราะเราไม่มีศักยภาพ หรือ อำนาจจัดการ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดใด ไปในทางที่ดี ที่ถูก ที่ควร เพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ อย่างน้อย ก็เป็นการแสดงออกถึงพลังบวก และเจตนาดีของพวกเรา ที่มีความตั้งใจช่วยให้สัตว์บรรเทาจากลำบากทุกข์ทรมาน และกลับมาใช้ชีวิตปกติได้
สำหรับ เรื่องของ มอเตอร์ และเวย์ น่าจะเป็นอุธาหรณ์ที่ดี สำหรับ ทั้งคนที่คิดอยากจะเลี้ยงบางแก้ว และกำลังเลี้ยงอยู่ ตลอดจนคนที่รักบางแก้วจริงๆทั้งหลาย .....
หมาทั้งสองตัว สันนิษฐานกันว่า น่าจะเป็นหมาที่มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ จึงถูกเจ้าของนำมาปล่อยทิ้งบนมอเตอร์เวย์ เพราะหมาจะหาทางกลับบ้านเองได้ยากมาก และมีโอกาสถูกรถชนตายได้โดยเจ้าของไม่ต้องลงมือฆ่ามันเอง
เป็นการแก้ปัญหาที่เจ้าของหมา(ที่ไม่อยากเลี้ยงหมาแล้ว)นิยมกันมาก นับตั้งแต่มีทางด่วน และมอเตอร์เวย์ในประเทศนี้ ซึ่ง หลังจากช่วยเหลือกันมาแล้ว ตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังมีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่แก้ไขไม่ได้ (หรือไม่ได้พยายามแก้) จากการเลี้ยงดูผิดๆมาตั้งแต่เด็ก และในที่สุดก็ตายไปในสถานรับฝากเลี้ยง
นิทานเรื่องนี้ ดูเหมือนว่า จะให้ข้อคิดได้ข้อเดียว คือ ถ้าช่วยหมาแล้วรับเลี้ยงมันต่อไปไม่ได้ ก็ปล่อยให้มันตายไปดีกว่า
แต่ส่วนตัว มองว่า คนที่เกี่ยวข้องในวงการ น่าจะคิดย้อนกลับไป ว่า ทำไม บางแก้วทั้งสองตัว จึงถูกพามาทิ้ง
ครั้งที่เคยมีข่าว เชพเพอดกัดเด็กหูขาด พาดหัวข่าวว่าเป็นหมาเพชรฆาต ฯลฯ ที่จังหวัดไหนจำไม่ได้แล้ว ข่าวว่า ทางผู้ปกครองเด็กขู่ให้กำจัดหมา หรือเอาไปอยู่ที่อื่นทันที ไม่งั้นจะดำเนินการ ฟ้องร้องเรียกค่าปรับ ฯลฯ เราเอง เลี้ยงเยอรมันเชพเพอดมานาน จนรู้สึกเหมือนเป็นหน้าที่ ที่จะต้องช่วยเหลือ แก้ปัญหา เพื่อปกป้องชื่อเสียงของหมาพันธุ์นี้ จึงได้เดินทางไปสืบหาจนพบบ้านที่เกิดเหตุทันทีที่ทราบข่าว และได้คุยกับเจ้าของหมา , เด็กที่ถูกกัด ตลอดจนเพื่อนบ้านในละแวกนั้นทุกคน จนทราบข้อเท็จจริงโดยละเอียด
ปรากฏว่า หมาก็คือเชพเพอดทั่วไป ที่นิสัยดี เป็นมิตร และสนิทกับเด็กที่ถูกกัดเป็นอย่างดี ตอนที่ไปถึง หมาล่ามไว้หน้าห้องแถวของเจ้าของ คนแถวนั้นก็เข้ามานั่งคุย บอกว่ามันใจดี ขี้เล่น ชอบเล่นกับลูกเป็ดของเขา เขาไปเอาลูกเป็ดมาปล่อยเดินไปมาให้เราดูตรงนั้น หมาก็ไม่ทำอะไร ดมๆเฉยๆ
ตอนที่ถูกกัด เด็กก้มลงหยิบของที่หมาที่กำลังนอนอยู่ หัวเด็กก้มลงไปที่หัวหมา จังหวะที่หมาสะดุ้งหันกลับมา ปากที่อ้า ก็หุบงับหูเด็กพอดี เด็กตกใจก็ผงะออกมาอย่างเร็วเหมือนกระชากหูออกมาจากปากหมา หมาปากใหญ่ เขี้ยวใหญ่ ฟันคมเหมือนใบมีด ย่อมสร้างบาดแผลพอสมควร โดย หมาไม่ได้มีท่าทางก้าวร้าว อื่นๆเลย
พอข่าวแพร่ออกไป ทางบ้านเด็กเล่าว่า มีคนมาจากในเมือง ถาม ว่าจะฟ้องร้องเอาเรื่องมั้ย เรียกร้องเงินได้เยอะนะ ฯลฯ เขารับ(จ้าง)จัดการให้ และสอนว่า ต้องพูดแบบนี้ ทำแบบนี้ ฯลฯ ก็ตามนั้นกันไป จนเป็นเรื่องราวใหญ่โต
เมื่อทราบเรื่องเคลียร์แล้ว จึงให้เงินช่วยค่ารักษาพยาบาลเด็กไปจำนวนหนึ่ง เจ้าของหมา ก็กำลังจะพาหมาไปอยู่อีกที่หนึ่ง ก็จบเรื่องกันไป
ที่เล่ามา เป็นข้อคิด ว่า เหตุใด ท่านที่รักบางแก้วทั้งหลาย โดยเฉพาะบรรดาท่านผู้สร้าง จึงไม่เคยมองในแง่ที่ จะช่วยกันแก้ไข บรรเทาปัญหา สร้างสรรค์ ชื่อเสียง ปกป้องเกียรติภูมิของบางแก้วตรงนี้กันบ้าง เพื่อประโยชน์ของหมาบางแก้วและตัวท่านเองเอง
*รูปหมาที่ข่าวว่ากัดเด็ก เอาลูกเป็ดมายื่นใส่ปากยังไม่อ้าปากเลย