 | แง่คิดที่ได้จากการไปดูการประกวดนกกรงหัวจุก |
|
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปเปิดหูเปิดตาดูการประกวดนกกรงหัวจุกเป็นครั้งแรก ขอนำแง่คิดที่ได้มาฝากสำหรับการเลี้ยงและการประกวดสุนัขบางแก้ว สนามประกวดอยู่ในซอยถนนประชาสงเคราะห์ ใกล้แฟลตดินแดง มีผู้เอานกมาซ้อมมากมายตั้งแต่เช้า  |
| ตอบ: แง่คิดที่ได้จากการไปดูการประกวดนกกรงหัวจุก |
|
ก่อนประกวด ก็แวะไปดูซุ้มของคุณบอยที่เลี้ยงนกไว้ร่วม 30 ตัวบนตึกแถวชั้นสามในซอยประชาสงเคราะห์ 4 กลางคืน จะให้นกนอนคุมโปงแขวนไว้ในห้อง ไม่ให้มันตกใจ ร้องหนวกหูชาวบ้าน  |
| ตอบ: แง่คิดที่ได้จากการไปดูการประกวดนกกรงหัวจุก |
|
เช้าๆ ก็ต้องนำนกออกมาอาบแดดที่ระเบียง สายๆ ก็ต้องเตรียมอ่างให้มันลงอาบน้ำ และต้องคอยฝึกให้มันร้องเพราะๆ ชีวิตดูไม่ง่ายเหมือนเลี้ยงหมาบางแก้วเลย แต่คงมีความสุขใจ และ มีเสน่ห์ไปอีกแบบหนึ่ง  |
| ตอบ: แง่คิดที่ได้จากการไปดูการประกวดนกกรงหัวจุก |
|
ใกล้เวลาประกวด ก็หิ้วนกตัวเก่งค่าตัว 2 แสนขึ้นมอเตอร์ไซด์ไป สนามประกวดอยู่ท้ายซอยประชาสงเคราะห์ 4 นี่เอง  |
| ตอบ: แง่คิดที่ได้จากการไปดูการประกวดนกกรงหัวจุก |
|
เมื่อได้เวลาประกวด นกซ้อมจะถูกเอาลง เพื่อให้นกประกวดจริงขึ้นเวทีโดยมีผ้าคุมปิดไว้ก่อน มีผู้นำนกลงประกวดทั้งหมด 120 ตัว แขวนเรียงเป็นแถวตามเบอร์ที่ได้เป็น 2 ข้างข้างละ 60 ตัว ค่าลงประกวดประมาณ 300 ถึง 1000 แล้วแต่ว่าเป็นการประกวดใหญ่ มีรางวัลใหญ่หรือไม่ รางวัลที่ได้จะเป็นเงิน ไม่มีการเก็บคะแนนสะสม CC เหมือนประกวดสุนัข  |
| ตอบ: แง่คิดที่ได้จากการไปดูการประกวดนกกรงหัวจุก |
|
การประกวดจะเป็นการฟังเสียงนกว่าตัวไหนร้องได้ไพเราะกว่ากัน โดยใช้กรรมการ 7-8 คนเดินเวียนรอบสนามให้คะแนนนกเป็นคู่ๆ นกตัวไหนได้เบอร์อยู่ติดกับนกที่ร้องเก่งกว่าหรือน่าเกรงขามกว่า ก็ซวยไป เพราะนกที่น่าเกรงขามกว่าจะข่มให้นกอื่นไม่สู้ ไม่ร้อง ผู้เลี้ยงและกองเชียร์ที่อยู่ข้างสนามจะคอยกระตุ้นให้นกของตนเองเกิดความฮึกเฮิม  |
| ตอบ: แง่คิดที่ได้จากการไปดูการประกวดนกกรงหัวจุก |
|
จะมีกรรมการคอยจับเวลาการให้คะแนนในแต่ละรอบโดยใช้วิธีแบบโบราณแต่เห็นชัดดี คือให้ขันเจาะรูวางในน้ำ เมื่อน้ำเข้าจนขันจมลงเมื่อไหร่ก็เป็นอันหมดเวลา กรรมการจะเป่านกหวีด แล้วเริ่มต้นใหม่ในรอบต่อไป  |
| ตอบ: แง่คิดที่ได้จากการไปดูการประกวดนกกรงหัวจุก |
|
ภายในช่วงเวลาที่ขันยังไม่จมน้ำ ถ้านกร้องได้ 3 พยางค์ต่อเนื่องกันโดยไม่หวาดกลัว ก็จะได้คะแนนไป กรรมการจะลงคะแนน แล้วขยับไปให้คะแนนสำหรับนกคู่ถัดไป ดังนั้น นกทุกตัวจะถูกประเมินโดยกรรมการทั้งหมด 7-8 คน แล้วเอาคะแนนทั้งหมดมารวมกันเพื่อหาตัวที่มีคะแนนสูงสุด ตัวนั้นก็จะได้ที่หนึ่งไป วิธีนี้ฟังดูก็น่าจะดีกว่าการใช้กรรมการคนเดียวตัดสินเหมือนในการประกวดสุนัข ซึ่งหลีกหนีไม่พ้นที่กรรมการจะต้องโดนด่าว่าลำเอียง แม้แต่ในสนามประกวดนก ก็มีการลำเอียงให้คะแนนพวกพ้องเหมือนกัน แต่เมื่อใช้กรรมการหลายคน ข้อครหานินทาดูจะเบาบางลง  |
| ตอบ: แง่คิดที่ได้จากการไปดูการประกวดนกกรงหัวจุก |
|
กองเชียร์จะคอยยืนอยู่หลังกรรมการกระตุ้นให้นกของตนร้อง เห็นกรรมการยืนเสียห่าง ก็ไม่รู้เขาฟังเสียงนกร้องอย่างไร เพราะนก 120 ตัว ร้องกันเสียงดังไปหมด เราดูนกไม่เป็น ก็เลยไม่รู้ว่า นกร้องเพราะนั้นเป็นอย่างไร รู้แต่ว่ากรรมการเขาไม่ดูโครงสร้างหรือมูฟเมนต์เหมือนประกวดหมาบางแก้ว ฝากเฮียย้งและท่านผู้รู้มาช่วยเล่าให้ฟังด้วยครับ  |
| ตอบ: แง่คิดที่ได้จากการไปดูการประกวดนกกรงหัวจุก |
|
ลองฟังเสียงนกกรงหัวจุกกันดูนะครับ ท่านใดสนใจ ลองศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บนกกรงหัวจุกนี้ ใครที่คิดจะเพาะพันธุ์หมาบางแก้วเป็นอาชีพเสริม ลองเปลี่ยนใจมาเพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกกันดีกว่านะครับ ถ้าร้องเก่งๆ อาจได้รางวัลเป็นแสน และขายได้เป็นล้าน ทั้งยังเป็นการช่วยอนุรักษ์สัตว์ป่าคุ้มครองที่หายากและกำลังจะหมดไปเพราะการลอกลอบจับ และยังเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมของพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีกิจกรรมที่สร้างสรรค์ทำกัน ไม่ใช่มัวแต่ไปวางระเบิดป่วนเมือง http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%81  |