สืบเนื่องจากกระทู้ DVD การปรับพฤติกรรมสุนัขของนาย Cesar Millan ที่โบได้นำเสนอในกระทู้ http://www.bangkaew.com/elearning/mod/forum/discuss.php?d=2498

ปรากฏว่า ได้รับอีเมล์แสดงความไม่เห็นด้วยจากสมาชิกบางท่าน   จึงขออนุญาตนำมาเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเกี่ยวกับเรื่อง การฝึกสุนัข

(Edited by Pingpong (-_-)/ - อังคาร, 27 มีนาคม 2007, 07:27PM)

http://www.usatoday.com/life/people/2006-05-05-dog-whisperer_x.htm

'Dog Whisperer' Cesar Millan sued by TV producer Posted 5/5/2006 10:33 AM ET E-mail | Save | Print |

LOS ANGELES (AP) — A television producer is suing dog trainer Cesar Millan, star of TV's The Dog Whisperer, claiming that his Labrador retriever was injured at Millan's training facility after being suffocated by a choke collar and forced to run on a treadmill. In a lawsuit filed Thursday in Superior Court, 8 Simple Rules producer Flody Suarez says he took 5-year-old Gator to the Dog Psychology Center on Feb. 27 to deal with fears of other dogs and strangers. Hours after dropping the dog off at the facility, Suarez claimed a worker called to inform him the animal had been rushed to a veterinarian. He later found the dog "bleeding from his mouth and nose, in an oxygen tent gasping for breath and with severe bruising to his back inner thighs," the lawsuit claims. The facility's workers allegedly placed a choke collar on the dog, pulled him onto a treadmill and forced him to "overwork." Suarez says he spent at least $25,000 on medical bills and the dog must undergo more surgeries for damage to his esophagus. A call to the Dog Psychology Center, also named as a defendant, was not immediately returned. A spokesman for National Geographic Channel, which airs Millan's show, declined comment. "As of this time, the National Geographic Channel has not been served with either lawsuit, and we do not comment on pending litigation," said Russell Howard, the channel's vice president of communications. The complaint claims breach of contract, fraud, animal cruelty and intentional infliction of emotional distress, among other allegations. It seeks more than $25,000 in damages. Posted 5/5/2006 10:33 AM ET

ขอบคุณครับที่นำเรื่องราวในอีกแง่มุนหนึ่งมาให้รับทราบ แต่ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทุกคำแนะนำ ทุกท่านควรพิจารณา ไตร่ตรอง โดยวิจารณญาณของตัวท่านเองอีกครั้งเพื่อความเหมาะสม เพื่อประโยชน์แก่ตัวท่านและน้องหมาของท่านเอง

สำหรับ DVD ชุดนี้เท่าที่ดูก็เห็นว่ามีประโยชน์สำหรับผู้เลี้ยงสุนัข ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเราต้องทำตามทุกถ้อยความ ทุกการกระทำ เลือกในสิ่งที่เหมาะสมกับเรา กับสุนัขของเรา กับความสามรถของเรา ความสุขมันอยุ่ที่ความพอดีของเรา ถ้าขาดหรือเกินมันก็ไม่มีความสุขทั้งคนทั้งหมา

ในการนำมาปฏิบัติกับเจ้าไปร์ทผมเองก็เลือกที่จะปฏิบัติและไม่ได้นำมาใช้ทั้ง 100% ตัวอย่าง การจูงสุนัขผมเลือกที่จะควบคุมเจ้าไปร์ทด้วยวิธีการอย่างใน DVD ที่แนะนำคือกระตุกเชือกทุกครั้งที่สุนัขไม่เชื่อฟังคำสั่ง เพื่อกำหนดทิศทางการเดินของเจ้าไปร์ทหรือเมื่อสุนัขก้มลงดมก็ดึงสายจูงเพื่อให้หน้าเชิด แต่ในเรื่องการดมผมถือว่าเป็นธรรมชาติของสุนัข ถ้าเป็นการดมตามปกติตามวิสัยของสุนัขทั่วๆไป การดมหมามันมีความสุข ผมเห็นมันมีความสุขผมก็มีความสุขกับมันระหว่างเดินเที่ยวด้วยกัน แต่ถ้าจะปล่อยให้มันเดินตามผมแบบใน DVD ผมมองว่ามันเป็นการบังคับ หมาไม่มีความสุข ผมก็ไม่มีความสุข 

บางโอกาสผมก็จะปล่อยเขาบ้างในบางช่วงเวลา ให้อิสระเขาตามสมควรขณะอยุ่ในสายจูง แต่ในบางโอกาสผมก็จะปล่อยออกจากสายจูง เพื่อให้อิสระเขาร้อยเปอร์เซ็นต์  และหันมาใช้วิธีจำกัดขอบเขตของเขาแทน เช่น กำหนดว่าเลยจากนี้ไปเขาจะไปไม่ได้ ซึ่งทำบ่อยๆ เขาจะรับรู้ เพราะไม่ว่าเขาจะวิ่งนำหน้าผม วิ่งเร็วอย่างไร  เมื่อมาถึงเส้นตายที่กำหนดเขาจะวนกลับ  เมื่อก่อนต้องวิ่งไล่ตาม เหมือนแมวไล่จับหนู แต่เดี๋ยวนี้ใช้วิธีใช้วิธีดักคอไว้ก่อน เรียกว่า “รู้ทันหมา” อย่าให้หมา “รู้ทันคน” เพราะพฤติกรรมเจ้าไปร์ทมันเจ้าเล่ห์ในหลายๆเรื่อง

DVD ชุดนี้ผมเองก็ยังดูไม่ครับทุกแผ่นเพราะเลือกดูบางแผ่น แล้วก็จำไม่ได้ว่าแผ่นไหนดุแล้วบ้าง บางทีก็ดูซ้ำ แต่เท่าที่ดูก็ยังไม่เห็นมีอุปกรณ์อะไรที่เป็นอันตรายกับสุนัข หรือ มีวิธีการอะไรที่เป็นอันตรายต่อสุนัข เป็นไปได้ที่เขาเสนอในแง่มุมที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เมื่อมาดูข้อพิพาทที่เกิดขึ้น เราไม่รู้ไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจเป็นไปได้ว่ามีการนำอุปกรณ์บางอย่างมาใช้กับสุนัขแล้วเกิดอันตรายกับสุนัข หรือเป็นไปได้ว่าอุปกรณ์นั้นไม่เป็นอันตรายต่อสุนัขแต่ปัญหาเกิดการตัวสุนัขเอง ทั้งนี้ต้องในใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ อีกอย่างข้อพิพาทก็ยังไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม ยังเป็นเพียงข้อกล่าวหา เราคงไม่สามารถไปตัดสินอะไรได้ในตอนนี้ โลกใบนี้เมื่อมีคนรักก็มีคนชัง  บางคนมีเหตุผลแต่บางคนก็ไม่มีเหตุมีแต่ผล  มีคนได้ประโยชน์ก็มีคนเสียประโยชน์  เมื่อก่อนเรามักจะได้ข่าวบ่อยๆ ในการช่วยคนที่ถูกรถชนแต่ผลสุดท้ายกลับถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ชนเสียเอง ทั้งนี้เมื่อผลประโยชน์ ความเห็นแก่ตัว ของคนบางคน เหตุการนี้คงเปรียบเทียบให้เห็นในกรณีฟ้องร้องนี้ได้เหมือนกันแต่ในอีกแง่มุมหนึ่งเท่านั้น

 แต่อีกแง่มุมหนึ่งก็อาจเป็นไปได้ว่าเกิดความผิดพลาดของผู้ฝึกเองจนเป็นอันตรายต่อหมาหรือเกิดจากตัวหมาเอง คงยกตัวอย่างได้กับการให้ยาสลบคนไข้ในปริมาณเท่ากัน แต่บางคนไม่เป็นอันตราย แต่อีกคนกับถึงตาย กรณีอย่างนี้อาจมีการฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหาย  อย่างนี้ก็ลำบากในการตัดสินใจ ยกเว้นเกิดจากการประมาท เลินเล่อ ไม่ใส่ใจ ทำเกินกว่าที่ควรทำ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ขอบคุณสำหรับในอีกแง่มุมหนึ่งที่อาจมองว่าดำมืด แต่ในความดำมืดมันก็มีประโยชน์เสมอ ถ้าเรามองอย่างมีสติ มองอย่างเป็นข้อเตือนใจให้ระมัดระวัง อย่างน้อยโลกความรู้แห่งนี้มันก็จะกว้างขึ้นครับ 

ด้วยความนับถือ

เจ้าไปร์ท-5518

เห็นด้วยกับคุณจรัลค่ะที่ว่าทุกคำแนะนำควรพิจารณาไตร่ตรองด้วยตัวเองอีกครั้งหนึ่งก่อนนำไปปรับใช้ ส่วนตัวดิฉันเองก็นำวิธีใน DVD มาปรับใช้แค่บางอย่างเท่านั้น และก็แค่บางจังหวะ เพราะปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมมีเยอะมาก ทั้งโดยตัวหมาเอง สิ่งแวดล้อม ฯลฯ โดยคอยสังเกตตลอดว่าก่อนทำเป็นอย่างไร ระหว่างทำเป็นอย่างไร และหลังทำเป็นอย่างไร ถ้าพบว่าอันตรายก็จะเลิกทำทันทีและหาวิธีใหม่ที่ปลอดภัยกว่า และที่สำคัญก็ผสมผสานวิธีไทยๆ เราไปด้วยนี่แหละค่ะ ไม่เห็นต้องเชื่อเขาหมด ยกตัวอย่างวิธีที่ดิฉันใช้เพิ่มจากดีวีดีเพื่อใช้แก้ปัญหาที่เขาทะเลาะกันในตอนนั้น ก็คือ ใช้วิธีตัดความสัมพันธ์ทางสังคม คือ พอเขาขู่กันปุ๊บ คนในบ้านก็พร้อมใจกันลุกเดินหนีไปจากบริเวณนั้นเลย ให้เขารู้ว่าการที่เขาขู่เพราะอิจฉาและเพื่อแย่งคนนั้นไม่สำเร็จหรอก และไม่ดีด้วย (คนไม่สนับสนุน) เกาลัดก็จะทำหน้าเหรอหรา หันมองคนนี้ทีคนโน้นที และหยุดขู่กันทันที ทำแค่ไม่กี่ครั้ง เขาก็เลิกขู่กันแล้วค่ะ ทุกวันนี้ก็ร่าเริงดี ไม่ได้ก้าวร้าวอะไร รักกั๊นรักกันเหมือนเดิมตั้งแต่ได้รับการฝึกในตอนนั้นที่ผสมผสานวิธีในดีวีดี, วิธีให้รางวัล, วิธีไทยๆ ที่ได้จากการคิดเองสังเกตเองอีกหลายขนานก็กลับเป็นปกติ ซึ่งพอเขาหายจากอาการนั้น เราก็ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นแล้ว ตอนนี้เขาทั้งคู่ก็เถิดเทิงทั้งวัน เล่นกัน ปล้ำกัน ฟัดกัน แล้วก็ขี้อ้อนคนทั้งคู่ ฉลาด ตลก ร่าเริง ฯลฯ สารพัดจะทำค่ะ

ดิฉันเห็นว่าถ้าการเลี้ยงและการฝึกใดๆ อยู่บนพื้นฐานความรัก ความเมตตาแล้ว เราก็จะปรับใช้ได้ทุกวิธี ทุกคำแนะนำที่มีประโยชน์และเหมาะสมต่อสถานการณ์แต่ละแบบ โดยไม่เป็นอันตรายทั้งต่อคนและหมา มีความสุขทุกฝ่ายค่ะ

แม้ว่าจะช่วงชิงความเป็นจ่าฝูงกลับคืนมาได้ตามวิธีของมิลาน     มันยอมเชื่อฟังเรามากขึ้น

แต่บางเรื่อง   มันก็ละเอียดอ่อนอย่างที่ป้าวิว่า  จะดุด่าว่าตีมันยังไง  มันก็ไม่ยอมเชื่อฟังทำตามเรา

อย่างเรื่องข่มเจ้าโบนี้   ปิงปองถือว่า  ยังไงมันต้องเหนือกว่า  ต้องต้อนเจ้าโบเข้ากรงให้ได้

และเรื่องไปเดินเที่ยวนอกบ้านพร้อมกัน  ชาตินี้  อย่าหวังเลย   มันคนละฐานะกัน

23:18 - 06/03/07 ป้าวิ ..เรื่องเอาปิงปอง กับโบ ออกไปเที่ยวข้างนอกพร้อมกัน ขอแนะนำว่า อะไรที่เรารู้สึกว่ามันเกินกำลัง....ก็ให้ ทำใจ ค่ะ บางเรื่อง มันซับซ้อนเกินกว่าเราจะมาเรียบเรียงเสียงประสานความคิดของหมาได้ ก็อย่าไปเสียเวลาดีกว่าค่ะ ตอนไหนที่เขาอยู่ด้วยกันได้ดี เราก็รักษาความสัมพันธ์ตรงนั้นให้ยั่งยืนที่สุดดีกว่า

แต่สำหรับด็อตคอม  ต้องถือว่า วิธีของมิลานได้ผล   มันเลิกที่จะไปราวีกับสุนัขข้างนอกแล้ว

ยังนึกไม่ออกว่า  ถ้าเป็นวิธีแบบการฝึกหมาด้วยวิธี reward-based training   จะต้องทำอย่างไร    ต้องคอยถือขนม  เบนความสนใจให้มันกลายเป็นหมาตะกระหรืออย่างไร

เห็นแฮนด์เลอร์ที่จูงสุนัขประกวดยังใช้วิธีเอาขนมล่อให้มันยืนนิ่งวิ่งสวยอยู่มาก  ผิดกับวิธีของครูประดิษฐ์ซึ่งอาจเหมือนวิธีของมิลานคือ ทำให้สุนัขกลัวโดยการลงโทษด้วยการดุ  ถ้าไม่ทำตาม  (flooding and positive punishment)   แต่ถ้าทำตาม  ก็จะมีการชมเป็นรางวัลให้เหมือนกัน   ไม่รู้ว่า วิธีนี้ น่าจะดีกว่าการอาขนมล่อไหม  เพราะดูแล้วสุนัขมีความสง่ามากกว่าการเป็นหมาตะกระที่ใจจดใจจ่อกับขนม 

   การฝึกหมาโดยผู้เลี้ยงอย่างเราๆ ผมว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งหรอกครับ ทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย ทั้งสภาพแวดล้อม ตัวผู้เลี้ยง ตัวสุนัข โดยเฉพาะผู้เลี้ยงมีความรัก ความเข้าใจในสุนัขตัวนั้นดีเพียงใด

    การใช้วิธีการหนึ่งโดยคนๆหนึ่งกับหมาตัวหนึ่งอาจได้ผล แต่กับหมาอีกตัวหนึ่งอาจไม่ได้ผลก็เป็นได้  เราไม่ใช่มืออาชีพ ประสบการณ์น้อย ทางที่ดีควรหาความรู้ หาวิธีต่างๆมาผสมผสาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

    ผมเลี้ยงเจ้าไปร์ทโดยไม่ใช้ของกินเป็นรางวัลเพราะผมไม่ชอบที่จะออกคำสั่งแล้วต้องให้ของรางวัลเป็นประจำทุกครั้ง อาจให้บ้างเป็นบางโอกาสแต่ก็น้อยเต็มที ส่วนใหญ่ผมมักจะซื้อตับไก่ย่าง หรือของอื่นๆ มาให้มันเสมอแล้วแต่โอกาส  แต่ถ้าให้ผมไปเล่นกับสุนัขตัวอื่นๆ ส่งแรกที่ผมต้องทำคือการให้รางวัล เพราะอะไร! เพราะผมเลี้ยงเจ้าไปร์ทมาทั้งแต่เล็ก ผมรู้ถึงนิสัยมันดี เข้าใจมันดี แต่กับตัวอื่นๆ ที่ผมไม่รุ้จักสิ่งแรกทีต้องทำคือ ตีสนิท นั่นคือมีของกินเป็นใบเบิกทาง จากนั้นเมื่อสนิท รู้ใจ คงต้องเริ่มด้วยการบังคับ ตีบ้างตามแต่โอกาส เรียกว่ารักวัวให้ผูกรัก แต่พื้นฐานที่ควรจะมีคือความรัก ความเข้าใจ ถ้าไม่มีสองสิ่งนี้....คงลำบาก ทั้งคนทั้งหมา 

23:02 - 02/04/07 ป้าวิ ..(ต่อ) ...ถ้าเจอหมาจ่าฝูงหรือหมาก้าวร้าวผิดปกติ,บรรดานักต่อสู้เพื่อสิทธิสัตว์ก็จะบอกว่า ต้องทำให้เขาหลับ ซึ่งถือเป็นความเมตตา,จะไม่มานั่งคิดหาวิธีปรับตัวหมากับคนให้เข้ากันเพื่อให้หมามันมีชีวิตอยู่ได้ต่อไป,แนวคิดของซีซ่าร์เรื่องการเป็นจ่าฝูงและการให้หมาออกกำลังกายจนเหนื่อยเพื่อให้เขาผ่อนคลายและลดความก้าวร้าวนั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหม่,คนฝึกหมาสำหรับใช้งานเขารู้กันดี,สรุปว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่แนวคิด,แต่อยู่ที่ความสะเพร่าของลูกจ้างที่ไม่สังเกตอาการหมาให้ดีต่างหาก

22:49 - 02/04/07 ป้าวิ ..ขอบคุณ Adminค่ะ พิมพ์ตรงนี้ก็สนุกดีเหมือนกันค่ะ...ยืนยันว่า ซีซ่าร์ไม่ใช่นักฝึกหมา แต่เป็นนักแก้ไขพฤติกรรมที่ผิดปกติของ(หมาและเจ้าของ) หมาค่ะ,การฝึกหมาแบบ positive training ที่เขาบอกกันนั้น,ความจริงคือ...จะฝึกได้แต่หมาที่เกิดมาเป็นหมาลูกฝูงเท่านั้น,ถ้าเจอหมาจ่าฝูงหรือหมาก้าวร้าวผิดปกติ,บรรดานักต่อสู้เพื่อสิทธิสัตว์ก็จะบอกว่า ต้องทำให้เขาหลับ

22:32 - 02/04/07 ป้าวิ ..เคยสงสัยมานานแล้วพวกนักวิชาการที่เขาร่ำเรียนกันมาสูงๆเขาจะไม่หมั่นไส้แกกันมั่งหรือ,จึงไม่แปลกใจกับข่าวนี้,เพราะเขาคงรอวันที่แกจะพลาดอยู่เหมือนกัน,อ่านคำวิจารณ์บางคน,ก็พูดเลยเถิดเกินไปหน่อย,แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาในทุกวงการที่จะมีการมองต่างมุม,  ถ้าจะพูดกันจริงๆจะเห็นว่า กับหมาบางตัวแกแก้ได้โดยไม่ได้จับหมาเลยด้วยซ้ำ

22:25 - 02/04/07 Admin ..ป้าวิ password เป็นชื่ออีเมล์ของตาฟลาย ถ้าจำไม่ผิด หรือคลิกที่ ลืมรหัสผ่าน ? เพื่อรีเซท password ใหม่ได้ แต่ต้องบอกอีเมล์ที่ใช้ให้ถูก พิมพ์แทบตายพอกดส่ง ข้อความหายหมด นั้น คงเป็นเพราะการจารจรติดขัด ข้อมูลไปไม่ถึง ต้องพิมพ์ใส่ที่อื่น แล้วก็อปมาใส่ กันหาย

22:24 - 02/04/07 ป้าวิ ..วิธีการของแกสำหรับหมาแต่ละตัวก็แตกต่างกันไปแล้วแต่ความเหมาะสมไม่มีคำตอบตายตัว DVD ที่เอาไปดูกันก็เป็นแนวคิดเท่านั้นและแกอธิบายเหตุผลประกอบโดยละเอียดให้คนดูคิดพิจารณาตามด้วยตัวเองทุกเคส อย่างน้อยเจ้าของหมาก็ได้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมตามธรรมชาติของหมาได้ชัดเจนมากขึ้น

22:12 - 02/04/07 ป้าวิ ..จะบอกว่า วิธีของซีซ่าร์ มิลาน ไม่ใช่การฝึกหมา แต่เป็นการแก้ไขพฤติกรรมที่ผิดปกติของหมา จะเอาไปเปรียบกับการฝึกหมาปกติไม่ได้ ป้าวิเองเป็นคนฝึกหมาด้วยวิธี positive training ไม่ใช้แม่แต่ choke chain กระตุกคอหมา แต่ก็เข้าใจแนวคิดของแก และรู้ว่ามันได้ผลจริง เพราะเป็นไปตามกฏเกณฑ์ธรรมชาติ

22:06 - 02/04/07 ป้าวิ ..พิมพ์แทบตายพอกดส่ง ข้อความหายหมด

21:58 - 02/04/07 ป้าวิ ..ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แกต้องรับผิดชอบแน่นอนอยู่แล้ว บ้านเราทั้งโรงพยาบาลชั้นดี หรือ0ฝึกหมามืออาชีพ ก็ทำหมาตายกันเยอะ แต่บ้านเราไม่มีใครเอาเรื่องกันขนาดนี้ เคยมีคดีเดียวเองมั้ง มีเจ้าของเอาเรื่องจนถึงที่สุด เรื่องวางยาแล้วหมาสลบไม่ฟื้นนี่แหละ อยากให้เจ้าของหมาบ้านเรามีการฟ้องกันแบบเขามั่งจังเลย โรงพยาบาลดังๆหลายแห่งได้เจ๊งกันมั่งแน่ๆ

21:52 - 02/04/07 ป้าวิ ..*ลืมpassword อีกแล้ว ไม่รู้ไปจดไว้ไหน....โพสตรงนี้แล้วกัน อ่านได้เหมือนกัน...เรื่องDog Whispererที่ถูกเจ้าของหมาฟ้อง อ่านแล้วก็สมควรแก่เหตุผล และเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ กิจการแกอาจจะดีขึ้นจนทำเองไม่ไหว ต้องจ้างคนมาทำ ซึ่งอาจจะขาดประสบการณ์ในการสังเกตหมา จึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

http://www.germanshepherds.com/ubbthreads/showflat.php?Cat=0&Number=837913&an=0&page=0#837913

แวะเอาลิ้งค์มาแปะให้อ่านเล่น  เป็นมุมมองที่แตกต่างของพวกคนเลี้ยงหมา"ฝึกใช้งาน"หรือ "หมากรรมกร" อย่างเยอรมันเชพเพอด    เข้าไปหาข้อมูลเรื่องนี้เพิ่งอ่านเจอมาเลยเอามาฝากกัน   จะได้มีข้อมูลหลากหลายมุมมอง   จากหลากหลายวงการให้วิเคราะห์กันค่ะ

มีทั้งชอบและไม่ชอบ  แต่ละคนมีเหตุผล และเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางหลายมุมมอง  บางคนที่ไม่ชอบบางสิ่งบางอย่าง  ก็ยังมองเห็นและเอ่ยถึงด้านดี ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์   ไม่ใช่มองเห็นและหยิบยกแต่ด้านที่เลวร้ายออกมาโจมตีกันด้านเดียว....

**...Cesar Millan doesn't claim to be a dog trainer.. So he doesn't specialize in dog training ..**

ก็อย่างที่โพสไว้ในข้อความด่วน  ว่า ซีซ่าร์แกไม่ได้เป็นนักฝึกหมา 

** What I do love about him is he wants dogs to be treated like dogs and not humans.. Which is alot of our societies problem.. People put human emotions on their dogs and it just doesn't work that way..**

**..I am glad that Cesar has made people aware of the necessity of treating dogs like dogs and that dogs do need to have discipline, boundaries and manners. I may not use all of his techniques but each dog is an individual and has to be treated accordingly...**

ข้างบนนี้ เป็นเหตุผลหนึ่งที่อยากให้คนเลี้ยงหมาบ้านเรา  ที่(บอกว่า)รักหมานั้น  ได้เข้าใจตรงนี้  เพื่อประโยชน์สุขของครอบครัวของตนเองและสังคมรอบข้าง

**..His methods may be old fashioned but I think we dismiss old fashioned as wrong too often. There is a time and a place for everything, including discipline, with dogs AND kids!..**

**......he's getting people about fixing their dogs and recognizing that 9 times out of 10, the PEOPLE are the problem, not the dog...**

มีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกัน  ค่อนข้างมาก   แต่ก็อยากให้ได้อ่านกันให้เยอะๆทั้งสองด้าน  เพราะมีข้อมูลที่ประโยชน์ให้เลือกเสพมากมาย  สำหรับคนเลี้ยงหมาทั่วไป

มีคนสรุปไว้ค่อนข้างน่าฟังว่า.....

**..I don't really look at whether behaviorists approve Cesar and his methods or not. Every single one of them has good things and bad things going for them and not one is perfect in every way. Some methods may work better for some dogs than others and some handlers will find more luck with method A than method B. I don't care for a second if there is a "seal of approval" or anything like that, just so long as it makes sense and it works. Much of Cesar's methods are grounded in dog behavior, and when combined with several other, less physical methods, they're fantastic...**