เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย น้องฮัช รูปหล่อ - Friday, 9 June 2006, 12:42PM
 

สวัดดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในชมรมครับ

ผมมีนามว่า ฮัช (Hush) ที่เป็นชื่อเพลงกล่อมเด็ก เพราะเจ้านายทีใจดีของผมกลัวผมดุก็เลยให้ชื่อผมแบบนี้ ชีวิตผมนะเปลี่ยนไปทันทีที่ได้เข้ามาอยู่บ้านเทาว์เฮ้าส์ เล็กๆ แถวอนุสาวรีย์ชัย ผมถูกขายไปอยู่ที่จตุจัตร มาจากคอก ชโนทัยบางแก้ว หมายเลขหูผมนะ 01349 พ่อผมนะชื่อแชมป์ จากคอกเดียวกันนี้ ส่วนแม่นะมาจากคอกเนรมิต แม่ชื่อ แสงจันทร์ ผมนะคล้ายแม่นะ คือสีขาวที่หัวท้ายทอย สีขา และ ใต้ท้อง หางเป็นฟู่สวยสีขาวนะ ผมเกิดเมื่อ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2548 ตอนนี้ อีก 4 วันผมก็จะครบ 7 เดือนแล้ว นะ ตั้งแต่ผมเข้ามาบ้านใหม่ผมก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับพี้นปูน พี้นปาเก็ พี้นแคมปานา ก็ลื่นๆ ทั้งนั้น ทีผมชอบอยู่แบบนี้ก็เพราะผมนะติดพวกเจ้านายของผมทุกคน ชอบนั่งดูเวลาเขานั่งคุยกันมองหน้าคนนั้นที คนนี่ที่ คุยกันเสียงอื่ออึงไปหมด ผมนะชอบมากเลย ตอนที่ผมไม่ชอบที่สุดก็คือตอนที่เขาออกรถไปจากบ้านตอนเช้าแล้วไมเอาผมไปด้วย เพราะผมต้องอยู่กับแม่บ้านกันสองคนเท่านั้น ผมคุ้นเคยกับกิจวัตรประจำวันของเรานะครับ ทุกวันเจ้านายผมจะตื่นแต่เช้าพาผมไปเดินถึงกลางซอย นะ ใครๆ ก็รู้จักผมก็ตอนนี้ละครับ พอเขากลับมาตอนเย็น หรือดึก ก็อีกหนึ่งรอบ ผมนะสงสารเจ้านายผมนะ เขาตัวเล็กๆ นะ ต้องดึงลากสายจูงผมตั้งแต่ผมหนักแค่ 7 กิโล จนตอนนี้นะ 17 กิโลกว่าๆ แล้ว แถมวันเสาร์ หรืออาทิตย์เจ้านายผมนะพาผมไปเดินเล่นที่สนามกีฬากองทัพบกเพราะเป็นทีเดียวที่ให้หมาสี่เท้าอย่างผมได้รับอนุญาตให้เข้าไป ผมชอบที่จะไปที่นี่ที่สุดเลย เพราะผมได้ไปเดินเล่นบนสนามหญ้านุ่มๆ เราวิ่งและเดินเล่นด้วนกันอย่างมีความสุข และที่นี่ผมได้มีโอกาสสร้างวีรกรรมต่างๆ เช่น ผมชอบหนึเที่ยวเล่นประเภทที่เจ้านายผมจัดการกับผมไม่ได้ เช่น เข้าไปวิ่งไล่ลูกฟุตบอลกับนักกีฬาในสนาม กระโดดลงน้ำในบีงเป็นต้น แต่แล้วความสุขก็ไม่ได้อยู่กับผมนานเท่าที่ผมควรจะได้   แล้วเรื่องเศร้าก็เกิดกับผม เศร้า

ที่ผมต้องบอกรายละเอียดทั้งหมดนี้ก็เกี่ยวเรื่องที่ผมกลุ้มใจนะครับ ผมนะเดินไม่ค่อยตรงตั้งแต่เด็กแล้ว เจ้านายผมก็เที่ยวถามหมอทุกครั้งที่พาผมไปให้เขาจิ้มพุง หมอก็บอกว่ายังเด็กเกินไปกว่าจะดูได้ไว้โตก่อนแล้วค่อนมาดู จนเมื่อตั้งแต่สงการต์มานี้ ผมเริ่มขี้เกียจ คือใครเรียกก็ไม่ค่อยอยากจะลุกไปหา จนเมื่อสองสามอาทิตย์ ที่ผ่านมานี้ ทหารที่สนามกีฬาตั้งข้อสังเกตว่าผมนะเดินไม่ตรงจริง ๆ และทุกครังที่ลงจากรถนะเจ้านายของผมจะให้ผมกระโดดลงจากหลังรถเอง แต่วันนั้นผมทำไม่ได้ เจ้านายเลยมาดูและช่วยใหผมลง ความที่แกตัวเล็กแกก็รับน้ำหนักผมไม่ไหว แล้วในที่สุดผมก็ตกลงมานอนบนพี้นลงแผะ (หลังจากที่ไปวิ่งเล่นที่สนามกีฬามารอบกว่า ๆ)

เท่านั้นแหละ เธอก็เทียวพาผมไปหาหมอที่จุฬาและเกษตร เพื่อค้นหาปัญหา คำตอบที่ได้ที่จุฬา คือให้ผมไปเอกซเรย์ แต่ไม่มีใครได้เห็นฟิลม์ แต่ก็ฟันธงว่าผมเป็นโรกข้อเสื่อม ให้ทำหมันทันที และ รอผ่านตัดพออายุครบปี  เจ้านายผมไม่ค่อยพอใจกับคำตอบที่จุฬาเพราะไม่ได้มีการวินิจฉัยจากหลักฐานที่เห็นด้วยตาตัวเองแต่เป็นคำวิเคราะห์จากฝ่ายเทคนิคเท่านั้น มีคนแนะนำให้ไปว่ายน้ำที่สระสุวรรณชาติ เจ้านายก็พาไปทันทีที่เธอว่าง ผมไปรอประมาณ 3 ชั่วโมง ผมต้องเอกซเรย์อีกครั้ง เพราะทีจุฬาทำฟิลม์หาย (หน้าสงสัยว่าทำฟิลม์หายหรือไม่ได้ถ่ายก็ไม่รู้แล้วยังวินิจฉัยสุ่มๆไป) คราวนี้คุณหมอแสนสวยที่เกษตร ชวนกันมาดูฟิลม์ แล้วอธิบายให้ฟัง่ว่า หัวกระดูกบริเวณ ต้นขานั้นค่อนข้างสมบูรณ์ ส่วนกระดูกด้านที่ส่วนเชิงกรานของลำตัวนั้น แสดงให้เห็นว่าไม่ห่อหุ้มกระดูกหัวข้อสะโพก หน้าตาจะเป็นรูปป้าน สังเกตจากฟิลม์และฟังวิธีการเลี้ยงดูผมหมอบอกว่าผมได้รับถ่ายทอดปัญหานี้จากพ่อแม่ของผมนะครับ ส่วนการการอยู่พื้นลื่นนั้นน่าจะเป็นผลกระตุ้นทำให้ปัญหาเกิดขึ้นได้เร็วกว่าปกติในอายุ 5-6 เดือนของผมนะครับ

คุณหมอแสนสวนได้อธิบายอย่างละเอียดถึงการดูแลจากนี้ต่อไป ผมจะไม่มีสิทธิวิ่งเล่นหรือเดินไปถึงกลางซอยไปหาเพื่อนซี่ Syberian Husky ได้อีกแล้ว แล้วผมจะเข้าไปนั่งฟังพวกเจ้านายเขาคุยกันอีกแล้ว ตอนนี้ผมต้องไปหาที่ว่ายน้ำที่เด็กอย่างผมจะไม่เสี่ยงต่อ การติดเชื่อโรคที่มากับหมาตัวอื่นในสระว่ายน้ำ คือคุณหมอบอกว่าไม่ควรว่ายน้ำที่สระสุวรรณชาติเพราะมีแต่หมาโตที่ทำให้ผมมีโอกาสติดเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่าย ตอนนี้ผมสงสารเจ้านายนะ เวลาก็ไม่มี สระว่ายน้ำใกล้บ้านก็ไม่มี มีแต่อยู่ไกลๆทั้งนั้น

พี่ๆน้องๆในชมรมมีใครพอแนะนำได้หรือเปล่านะ สระว่ายน้ำที่ใกล้ในเมืองแถวอนุสาวรีย์    ช่วยแนะนำเจ้านายผมหน่อยคะเท่

เรื่องกลุ้มใจเล็กๆ อีกเรื่องของผมก็คือมีคนที่เขาเลี้ยงบางแก้วที่อื่น เขาบอกว่าผมไม่ใช้บางแก้วนะ เพราะหน้าผมแหลมกว่าคนอื่นเขา ผมเป็นบางแก้วจริงหรือเปล่าครับ ผมไม่ใช่ลูกพ่อแชมป์ แม่ แสงจันทร์ หรือ แล้วผมเป็นลูกใครละ   แต่ผมมีใบ Certified Pedigree นะครับ แต่ผมกำลังส่งสัยว่าเบอร์ที่หูผมกับช่างคิด

เอกสารทีได้มานี้ มันปลอมหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมให้ดูรูปผมตอนสี่สิบวันกับตอนปัจจุบันนี้ก็แล้วกันนะครับ

จากเรื่องของผมอยากจะขอให้พี่ๆน้องๆ ในชมรมช่วยบอกต่อด้วย คือ

1. เราจะต้องระวังเรื่องการกระจายปัญหาเรื่องข้อเสื่อมไม่ให้แพร่พันธ์ให้ได้

2. อย่าไปเชื่ออะไรกับคนขายที่จตุจักร นะ ต้องดูให้ดีและรอบคอบนะครับ

ช่วยผมด้วยครับ


ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย น้องฮัช รูปหล่อ - Friday, 9 June 2006, 12:13PM
 
รูปผมตอน 40 วันครัย
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย น้องฮัช รูปหล่อ - Friday, 9 June 2006, 12:40PM
  รูปของผมถ่ายวันนี้ครับ
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย Pingpong \(-_-)/ - Friday, 9 June 2006, 02:00PM
 

สงสัยรูปใหญ่ไปเลยไม่ติด  อย่าให้เกินร้อยเคครับ

เห็นด้วยกับข้อเสนอทั้ง ๒    
ที่เมืองนอก   พ่อพันธุ์หรือแม่พันธุ์ที่ให้ลูกเป็นโรคข้อสะโพกเสื่อม   เขาจะไม่เสี่ยงเอาไว้ทำพันธุ์ต่อไป   และ  ผู้เลี้ยงก็ควรดูแลอย่าให้สุนัขวิ่งอยู่บนพื้นลื่น

ช่วยเล่าตลาดบางแก้วที่จตุจักรให้ฟังหน่อยครับ    ผมไม่ได้ไปนานแล้ว   

ทราบแต่ว่า มีพ่อค้าคนกลางไปกว้านซื้อบางแก้วมาจากชาวบ้านถูกๆ   แล้วนำมาหลอกขายแพงๆ  โดยไม่มีการดูแลลูกสุนัขดีเท่าที่ควร    และ  ใบเพ็ดก็ชื่อถือไม่ได้อยู่แล้วครับ 

ฟังมาว่า   บางคนก็ขายจนรวย  ซื้อรถให้เมียน้อยได้หลายคน

ใครอยากได้ลูกสุนัขดีๆ   แนะนำให้ไปดูที่ฟาร์ม   แม้ราคาจะแพงหน่อย  แต่ก็ไม่ต้องมาเสียใจในภายหลัง

เจ้าฮัชเป็น บางแก้วแท้แน่นอนครับ   มันยังโชคดีที่ได้นายดี  คอยดูแลรักษา  ไม่ทอดทิ้งมัน

ลองทำสระน้ำขนาดเล็กที่บ้านให้มันออกกำลังกายดูนะครับ

ใช้เชือกยางรัดแทนปั๊มน้ำหมุนวนก็ได้

ดูที่ http://www.bangkaew.com/elearning/mod/forum/discuss.php?d=961

ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย น้องฮัช รูปหล่อ - Friday, 9 June 2006, 06:16PM
 

ขอบคุณมากคะ คุณปิงปอง สำหรับคำแนะนำนะคะ

ไม่รู้ว่าจะตอบว่าอย่างไร เกี่ยวกับตลาดจตุจักรนะคะ เพราะตอนไปซี้อนะคะ ไม่ได้ตั้งใจ แต่ในใจอย่างได้บางแก้ว เพราะเข้าใจว่าหมาไทยเรานี้แหละแข็งแรงแน่ๆ ไม่ต้องห่วงมากเรื่องโรคภัย เพราะตัวเองนะคะเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเองจำความได้ส่วนมากเป็นหมาพันธุ์ผสมนะคะ เพราะเราเป็นบ้านเล็ก ทาว์นเฮ้าส์ ไม่มีทางเลือกมากนัก เคยเลี้ยงหมาพันธุ์แท้นะคะ แต่เห็นเขาจากเราไปเร็วไม่ได้คะ ก็เลยหันมาสนใจหมาไทย

เท่าที่เห็นตอนนี้มาคนเอาบางแก้วมาขายเยอะมากทั้เจ้าจองฟาร์มเอง พ่อค้าคนกลาง พ่อค้าสมัครเล่น ขายหมาบ้าน มีบางแก้วให้เลือกเยอะมาก ราคาก็มีตั้งแต่1500บาทจนถึง 15000 บาท  พ่อค้าคนกลางจะขายอยู่ประมาณ 2,500-5000 บาท พ่อค้าสมัครเล่น ก็ไม่แน่นอน ทั้งสองพ่อค้านี้จะต่อรองได้จนน่าแปลงใจ และปล่อยให้คนซื้อจับอุ้มน้องหมาได้เต็มที่ ส่วนถ้าเป็นเจ้าของฟาร์มมาเองก็จะไม่ยอมให้จับ ราคาก็จะแพงกว่า น้องฮัชได้มาจากพ่อค้าคนกลางคะ ราคาตั้งไว้ ที่ 4,500 แต่ซื้อมาได้ในราคา 2,500

ปกติเป็นคนที่ซื้ออะไรยากนะคะ แต่น้องฮัช เขาน่ารักมากนะคะ และก็ดูถูกชะตามากๆ นะคะ เลยไม่คิดอะไรเลยอุ้มกลับบ้านมาเลยคะ นี่ก็คงเป็นการรายงานตลาดสุนัขบางแก้วในระยะนี้ ช่วงงานเกษตรแฟร์ที่ผ่านมานี้นะคะ มีแต่บางแก้วมาขายนะคะ ช่วงนี้บางแก้วเป็นดาวเด่นที่สุดคะ รู้สึกดีกับที่บางแก้วหมาไทยมีความนิยมมากขี้นนะคะ

แต่สำหรับสระน้ำที่จะทำเอง ขนาดเท่าไรคะ ฮัชสูงประมาณ 60 เซนติเมตรคะ และบ้านของเราก็เล็ก ไม่มีที่มากขนาดนั้น ถ้าได้ขนาดมาก็จะลองคิดดู สนใจ ที่สมาคม Triz แนะนำคะไม่ทราบว่าจะจ้างผลิตได้หรือไม่คะ คือเป็นผู้หญิงที่ไม่ถนัดเลยเรื่องต้องติดตั้งหรือต่อเติมอะไรนะคะ ขอคำแนะนำมากๆ หน่อยนะคะ จะขอติดต่อทางโทรศัพท์ได้หรือไม่คะ หรือจะส่งหมายเลขติดต่อมาได้ที่ email pareenap@kiasia.org ได้หรือไม่คะ อย่างหาทางออกให้น้องฮัชให้เร็วที่สุดคะ เพราะเมื่อเช้าพาเขาไปเดินแล้วอยากจะร้องไห้ ขาหลังเขาก้าวออกที่ละเก้าลำบากมากคะ เห็นใช้วิธีเดินแบบหย่องขาคู่ แล้วก็ลุกนั่งลำบากดูแล้วน่าสงสารมากคะ

ขอความช่วยเหลือนะคะ ตอนนี้น้องไม่ค่อยยอมกินข้าวด้วยคะเท่

ขอบพระคุณคะ

ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย ไตรสิทธิ์ . - Saturday, 10 June 2006, 09:38AM
 

มีแต่ไอเดียไว้ขาย   แต่ไม่รู้ว่ามีใครซื้อไอเดียไปลองทำดูหรือยัง

พยายามเอาอ่างปลามาให้ด็อตคอมใช้เป็นสระว่ายน้ำส่วนตัว  แต่ก็ดูตื้นไป  กัดฟัน


http://www.bangkaew.com/elearning/mod/forum/discuss.php?d=1708

คงต้องใช้อ่างที่ลึกและกว้างกว่านี้   ไม่ให้มันเหยียบถึงพื้นและไต่ถึงขอบ

อาจลองซื้อสระว่ายน้ำพลาสติกของเด็กมาลองทำดูก็ได้    แต่ต้องระวังมันกัดหรือตะกุยขาด   เอาไม้ค้ำไว้ให้มันว่ายน้ำอยู่กับที่   หรือถ้าเมื่อยมือ  ก็หาเชือกโยงจากขื่อหรือราวตากผ้าข้างบน    อย่าลืมซื้อชูชีพมาให้มันใส่ด้วย    ได้ผลเป็นไง  ช่วยถ่ายรูปมาให้ดูกันบ้าง   ที่สำคัญ  ต้องไปให้หมอผ่าตัดยัดข้อเข้าเบ้าและพักพื้นสักระยะหนึ่งก่อน  รวมทั้งหาอะไรลองพื้น   อย่าให้ลื่น  เดี๋ยวหกล้ม  ข้อหลุดจากเบ้าอีก

ดูจากรูปข้างบน  จะเห็นว่า เจ้าบิ๊กว่ายน้ำอยู่กับที่  ไม่จำเป็นต้องใช้สระใหญ่เลย

ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย จรัญ กาลตนากูล - Saturday, 10 June 2006, 12:40PM
 

ลองเข้าไปในกระดานโรคนี้ยังมีหวัง ที่หน้าหลัก (อยู่ซ้ายมือ) เรื่องของเจ้าบิ๊ก เจ้าหมูตุ๋น เจ้าไปร์ท เป็นปํญหาเกี่ยวกับข้อสะโพกเสื่อม เบ้าสะโพกตื้น ข้อกระดูกหลุดออกจากเบ้าสะโพก ซึ่งเกิดจากกรรมพันธ์และอุบัติเหตุจากการถูกกระแทกอย่างแรงหรือพื้นลื่น

ลักษณะของเบ้าสะโพกกับข้อกระดูกของสุนัข

ลองเอามือซ้ายทำเป็นลักษณะชามคว่ำ (เบ้าสะโพก) แล้วมือขวาทำเป็นลักษณะกำปั้น (ข้อกระดูก)  แล้วเอากำปั้นยัดใส่เข้าไปในชามคว่ำ  แล้วระหว่างกำปั้นกับชามคว่ำจะมีเอ็นยึดติดกัน

1. ข้อสะโพกเสื่อม (กรรมพันธุ์) เกิดจากข้อกระดูกไม่เรียบ เป็นตะปุ่ม ตะป่ำ เวลาเดินทำให้เกิดการเสียดสี ทำให้เกิดความเจ็บปวด คงต้องให้วิธีกินยาเพื่อช่วยในการหล่อลื่น เพื่อลดความเจ็บปวด (ตอนนั่งแทะไก่ย่างเสร็จก่อนทิ้งกระดูกลองเกตุดูขอ้กระดูกไก่จะเรียบและลื่น)

2. เบ้าสะโพกตื้น (กรรมพ้นธุ์+อุบัติเหตุ) เป็นลักษณะที่มือซ้ายของเราจะไม่สามารถครอบคลุมกำปั้นขวาได้ทั้งหมด นี่เรียกว่าเบ้าสะโพกตื้น แต่ถ้าเราใช้กำปั้นของเด็กเล็กๆ ซึ่งมือซ้ายของเราสามารถครอบคลุมกำปั้นของเด็กได้ดีกว่า นี่เรียกว่า ปกติ

เบ้าสะโพกตื้น กรณีนี้จะทำให้ขอ้กระดูกหลุดออกจากเบ้าได้ง่าย จากอุบัติเหตุหรือพื้นลื่น การเล่นของสุนัขที่รุนแรง (การที่ข้อกระดูกหลุดออกจากเบ้าเส้นเอ็นที่ยึดระหว่างข้อกระดูกกับเบ้าสะโพกส่วนใหญ่จะขาดออกจากกัน)  ถ้าเกิดการหลุดและเกิดไม่นานก็สามารถจับใส่เข้าไปในเบ้าได้แล้วรอให้กล้ามเนื้อยึดแทนเอ็นที่ขาดไป   แต่ถ้าปล่อยไว้เป็นเวลานานๆ จนกล้ามเนื้อบริเวณนั้นยึดเบ้ากับขอ้กระดูกที่หลุด ( เลื่อนกำปั้นออกจากชามคว่ำมาอยู่บริเวณปากชาม) และจะเกิดอาการกดทับระหว่างเบ้ากับขอ้กระดูกหลุดมาอยู่ภายนอกเบ้า ทำให้เกิดการเจ็บปวดเวลาเดิน ถ้าปล่อยไว้นานๆ สุนัขไม่ยอมลุกขึ้นเดิน เอาแต่นอน ลักษณะนี้คงตอ้งใช้วิธีผ่าตัดข้อกระดูกออกแล้วให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นช่วยพยุงแทน

3. ข้อกระดูกหลุดออกจากเบ้าเนื่องจากแรงกระแทกที่รุนแรง ( อุบัติเหตุ ) กรณีนี้เป็นเรื่องของอุบัติเหตุ อากรและการรักษาเหมือนกันกับ ข้อ 2

ที่เขียนมานี้ไม่แน่ใจว่าถูกต้องทั้งหมดหรือไม่ ขอให้ใช้เป็นแนวทางเท่านั้น

ส่วนเรื่องสระว่ายน้ำ กรณีบ้านเป็นทาวเฮ้าส์ ผมว่าเลิกคิดได้เลยครับเพราะสถานที่ไม่เอื้ออำนวย ผมว่าคงไปดูแลเขาด้วยการกินยา กับน้ำหนักตัว และพาไปว่ายน้ำบ้างเป็นครั้งคราวจะดีกว่า เท่านี้คุณก็ได้บุญและก็เป็นบุญของเขาแล้วครับ ที่ไม่ถูกทอดทิ้งเหมือนเจ้าบางแก้วตัวอื่นๆ  

ตอนนี้เข้าใจว่าคุณเป็นกังวล สับสน และด้วยความสงสารเขา อยากจะทำอะไรก็ได้ให้เขาดีขึ้น แต่เดี๋ยวสักพักสถานการณ์ก็จะเป็นปกติ นั่นคือคุณเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็นอยู่ ขอให้โชคดีมีความสุขทั้งคนทั้งหมาครับ

ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย carnivore ...The Alpha Wolf - Saturday, 10 June 2006, 08:17PM
 

อ่านจากที่เจ้าของ ฮัช เล่ามาว่า...."  กระดูกด้านที่ส่วนเชิงกรานของลำตัวนั้น แสดงให้เห็นว่าไม่ห่อหุ้มกระดูกหัวข้อสะโพก หน้าตาจะเป็นรูปป้าน "....แสดงว่า  ไม่มีส่วนของเบ้ากระดูก สำหรับหุ้มหัวกระดูกขาท่อนบน  อาการแบบนี้  ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด      เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่หัวกระดูก  ตามที่เล่ามาว่า.." หัวกระดูกบริเวณ ต้นขานั้นค่อนข้างสมบูรณ์ " แต่ปัญหาอยู่ที่กระดูกเชิงกรานซึ่งไม่สามารถคว้านให้เป็นเบ้าได้

วิธีบรรเทาอาการ  คือ  เสริมสร้าง เส้นเอ็น หรือเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน  ที่อยู่โดยรอบบริเวณข้อตะโพกที่มีปัญหา  ให้แข็งแรงที่สุด  เพื่อช่วยยึด และพยุง ให้ข้อต่อส่วนที่มีปัญหา  อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และช่วยรองรับน้ำหนักตัว โดยไม่ทำให้ข้อกระดูกเคลื่อนผิดรูปมากเกินไป  จนเกิดการเสียดสี  ทำให้หมาเจ็บและไม่อยากเดิน

การรักษาโดยทั่วไป หมอมักจะให้ยา Rimadyl (Carprofen)  เพื่อลดอาการเจ็บจากการอักเสบบริเวณข้อ ร่วมกับยาบำรุงตับ Lipochol ให้กินติดต่อกันประมาณ 7-10 หรือ15 วันตามอาการ  และให้อาหารเสริมบำรุงประเภท ที่มีสาร ไกลโคซามีโนไกลแคน , คอนดรอยติน ซัลเฟต , กรดไขมันโอเมก้า 3 , และกลูโคซามีน ฯลฯ  ซึ่งช่วยลดการอักเสบและฟื้นฟูสภาพกระดูกอ่อน เนื้อเยื่อ เส้นเอ็น โดยรอบข้อตะโพก ให้แข็งแรงขึ้น

เมื่อหมาทุเลาอาการเจ็บ  สามารถเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นแล้ว  จึงค่อยเริ่มทำกายภาพบำบัด  หรือออกกำลังกายเบาๆ  ที่ไม่ต้องให้ข้อตะโพกรับน้ำหนักมากนัก

ที่สำคัญ  จำเป็นต้องจำกัดอาหาร  ให้กินแต่อาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูงในปริมาณเหมาะสม   อย่าให้กินของขบเคี้ยว หรืออาหารกินเล่นที่ไม่มีคุณค่าทางอาหาร  และอาจทำให้อ้วน  หากต้องการให้หมาได้มีของขบเคี้ยวแทะเล่น  ควรให้กระดูก(จริง)ดิบๆ  จะดีสำหรับหมาที่สุด  โดยเฉพาะกระดูกท่อนขาวัว ที่จะมีไขกระดูกในโพรงช่องกระดูกที่มีคุณค่าทางอาหารสูง

ถ้าเป็นไปได้  ควรเลี้ยงด้วยอาหารสดดิบ ซึ่งเป็นอาหารตามธรรมชาติของหมา  ที่มีสารอาหารครบถ้วนสำหรับหมาและไม่ทำให้อ้วน  ศึกษาดูได้ที่   http://www.pantown.com/group.php?id=560

ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย กนต์ธร ประภา - Sunday, 11 June 2006, 12:02AM
 

เจ้าร็อกกี้ของผมเวลามันวิ่งเหยาะๆ ผมมองจากข้างหลังเห็นขาคู่หน้าไม่ตรงกับขาคู่หลัง ไม่ทราบว่าอาการเหมือนเจ้าฮัชหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ผมต้องแก้ไขยังไงครับ ตอนนี้มันอายุ 3 เดือนแล้ว

ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย ไตรสิทธิ์ . - Sunday, 11 June 2006, 12:29PM
 

ตอบคุณกนต์ธร   เรื่องวิ่งนี่ ต้องรอผู้เชี่ยวชาญการวิ่งมาคุยให้ฟัง   วันก่อนพี่ท่านขับ F16  ไปฝึกซ้อมรบ   หลุดจากจอเรดาร์ไปหลายวันแล้ว   ไม่ทราบเครื่องไปตกอยู่แถวไหน มารร้าย

ลองไปศึกษาดูที่นี่ก่อนละกัน  เป็นเอกสารเผยแพร่ของชมรมไทยบางแก้ว  พี่ท่านอนุญาตให้เอามาแปะให้ดูกัน

 ลองเอามือจับขาหลัง  โยกขึ้นโยกลงดู   ถ้ามันไม่เจ็บไม่ร้อง   ก็คงยังไม่หลุด    แต่ต้องคอยหมั่นสังเกตุ

แหล่งข้อมูลTBD Breed Standard

http://www.bangkaew.com/elearning/Standard/DSC00227.JPG

ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย ไตรสิทธิ์ . - Sunday, 11 June 2006, 01:18PM
 

ถามป้าวิ  ปกติให้ด็อตคอมกินโครงไก่สดเป็นอาหารหลักเมื้อเย็นทุกวัน  ขนฟูพองไม่ร่วง   แต่ไม่ค่อยเป็นมันเงา 
อกก็ไม่ค่อยจะผาย   ไหล่ก็ไม่ค่อยจะผึ่ง  ไม่รู้จะเกี่ยวกันหรือเปล่า   ไม่ยักเหมือนเจ้ายิ่งใหญ่ตอนตกยากกับตอนอยู่ในอุปการะของป้าวิเลย

http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/J2420793/J2420793-19.jpghttp://www.bangkaew.com/elearning/file.php/1/moddata/forum/101/4929/DSCF3468.JPG

 http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/J2420793/J2420793-19.jpg        http://www.bangkaew.com/yingyai/

เช้านี้  เลยไปหาซื้อกระดูกท่อนขาวัว   กะว่าจะให้มันแทะเล่น  เผื่อจะหล่อเหมือนยิ่งใหญ่บ้าง    แต่แฟนห้ามเอาเนื้อและกระดูกสัตว์ใหญ่เข้าบ้าน   เลยซื้อเป็นกระดูกหมูที่เขาเอาไว้ต้มซุปเข้าใจว่าเป็นซี่โครง   เห็นมีไขเยอะดี  ราคาก็ไม่แพง  แมโครโลละ 25 บาท  โครงไก่เดี๋ยวนี้ ก็ 20-22 บาทแล้ว    จะซื้อข้อขาหมู  ก็กลัวมันแทะไม่แตก  เสียดายของ   ปรากฏว่า กระดูกหมูที่เขาเอาไว้ต้มซุปชิ้นใหญ่ๆนี้  เอาให้  โบ  ปิงปอง  และ ด็อตคอม  เคี้ยวกันสนุกไปเลย  ไม่เหลือซาก

ไม่รู้เอามาแทนกระดูกขาวัวได้ไหม   

ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย carnivore ...The Alpha Wolf - Sunday, 11 June 2006, 05:19PM
 

เรื่องกระดูกหมูกับกระดูกวัว ไม่แน่ใจว่าใช้แทนกันได้ไหม    เพราะไม่เคยให้หมากินหมูดิบค่ะ  ไม่ว่าเนื้อ  เครื่องใน  หรือกระดูก 

หมาที่บ้าน มีคนชมบ่อยว่าขนเป็นเงาดีทุกตัว  ก็กินแต่โครงไก่ดิบ  เสริมปีกเต็มและเนื้อตะโพกอาทิตย์ละครั้ง  สลับกับ ปลาดิบ(ปลาทูสด  ,ปลาแช่แข็ง เช่นซาบะ หรือปลาไข่)และเนื้อติดกระดูกวัวดิบบ้างนานๆครั้ง(แพงจริงๆ)    ทุกมื้อ จะให้ น้ำส้มแอปเปิล(Apple Cider Vinegar with the mother)  และน้ำมันงา ประมาณ 1 ช้อนชา ใส่ลงในอาหารด้วย

ตอนนี้โครงไก่ดิบที่นี่ ตกประมาณ กก.ละ 14-15 บาท   ราคาไม่แน่นอน บางช่วงก็ขึ้นถึง 20บาทเหมือนกัน    ใช้วันละ 30-40 กก.ทุกวัน

เรื่อง อกผาย ใหญ่ผึ่ง  น่าจะเป็นที่โครงสร้างและบุคลิกพื้นฐานของเขาส่วนหนึ่ง   กับเรื่องของวัย...ที่โครงสร้างร่างกายของเขายังพัฒนาไม่เต็มที่  อีกส่วนหนึ่ง

ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย ไตรสิทธิ์ . - Monday, 12 June 2006, 10:12AM
 

ไปเจอคนหาซื้ออ่างในพันทิป  เลยเอามาแปะไว้เป็นข้อมูล

    อยากรู้ที่ซื้ออ่างพลาสติกขนาดใหญ่ที่ให้สุนัขลงไปว่ายน้ำได้

    อยากรู้ที่ซื้ออ่างพลาสติกขนาดใหญ่ที่ให้สุนัขลงไปว่ายน้ำได้ เอาประมาณความลึกซัก 80เซน เป็นอ่างกลม หรือเหลี่ยมก็ได้  ช่วยบอกหน่อยนะ จะให้ลูกหมาที่บ้านว่ายเพื่อบำบัดข้อสะโพกเพราะไม่มีเวลาเอาไปว่ายที่รพ.เกษตรคะ(ต้องว่ายน้ำที่สป.เป็นเวลา2ปีคะ)

    จากคุณ : ventus - [ 12 มิ.ย. 49 00:07:04 ]


 
 

http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J4448238/J4448238.html
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย แม่แตงโม บ้านวัดไตรฯ - Monday, 12 June 2006, 11:17AM
 

แตงโมก็มีปัญหาเรื่องขาเหมือนกัน พ่อเป็นคนสังเกตุเห็นว่าเวลาเดินบางทีเขาจะยกขาหลังข้างขวาขึ้น เหมือนขาเจ็บ บางทีก็เดินได้ปกติ พอดีอายุครบ 1 ปี ก็เลยพาไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าที่คลินิคแถวบ้าน ก็พาเดินไปจากบ้าน(ไกลเหมือนกันแหละ) พอไปถึงหมอก็วัดไข้ ปรากฎว่ามีไข้หมอก็ไม่ฉีดวัคซีนให้ ก็ให้ยามากิน ตอนนั้นเค้าก็ขนร่วงแล้วก็ไม่ค่อยกินอาหาร ก็คิดว่าเค้าผลัดขน เบื่ออาหาร แล้วขนเค้าก็ไม่สวยเลย หยาบ แห้ง แล้วอาทิตย์ถัดไปก็ไปหาหมออีกโดยวิธีเดิม (เดินไป แดดร้อนด้วย) พอไปถึงก็มีไข้อีก ก็ไม่ได้ฉีดยาอีก  พ่อแตงโมก็เลยบอกหมอว่าเห็นเค้าเดินขากระเผลกหมอก็เลยคลำ ๆ ดู แล้วก็บอกว่าเหมือนกระดูกสะบ้าเคลื่อนแล้วก็บอกว่าถ้าเป็นมากก็ต้องผ่าตัด หมอบอกว่าที่คลินิคไม่รับผ่าต้องส่งไปโรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬา ก็ให้ยาบำรุงมากิน พอกลับมาบ้าน รู้สึกว่าแตงโมอาการหนักขึ้น คือเค้าไม่สามารถขึ้นบันไดบ้านเองได้ (ที่บ้านเลี้ยงปล่อยไม่ได้ขังกรง พื้นบ้านเป็นปาเก้) ต้องให้อุ้มขึ้น แล้วเค้าก็ผอมมากไม่ยอมกินอาหารเลย (มาทราบทีหลังว่าเค้าคงเจ็บมากเลยไม่อยากกิน) ก็เลยตัดสินใจพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬา หมอก็คลำ ๆ ดูแล้วก็บอกว่ากระดูกสะบ้าหลุด ก็ส่งต่อไปแผนกศัลยกรรม เค้าก็คลำ ๆ ดู แล้วก็ให้ไปเอ็กซ์เรย์ ปรากฎว่ากระดูกสะบ้าหลุด แต่เกิดจากเบ้ากระดูกตื้น ไม่ได้เกิดจากสะโพก เป็นทั้งสองข้าง แต่ข้างขวาหลุดแล้ว หมอก็นัดผ่าตัดวันที่ 29 มีนาคม 2549 (วันผ่าตัดชั่งน้ำหนักก่อนให้ยาสลบ หนัก 14.6 กิโลกรัม)ผ่าเสร็จหมอบอกว่า หมอคว้านเบ้ากระดูกให้ลึกขึ้นแล้วก็เอาเอ็นเทียมยึดกระดูกสะบ้าไว้ แล้วก็เย็บแผลปิดพลาสเตอร์ ฉีดยาแก้ปวดให้แล้วมีฤทธิ์ 24 ชั่วโมง แล้วก็ฉีดยาแก้อักเสบให้แล้วให้กลับบ้านได้ วันรุ่งขึ้นก็นัดมาดูแผลอีกที แล้วนัดอีกที แล้วนัดตัดไหมใช้เวลาประมาณ 10 วัน(ตั้งแต่ผ่าถึงวันตัดไหม) จนถึงวันนี้ แตงโมก็กินอาหารได้มากขึ้น ขนกลับมาสวยงามนุ่มเป็นมัน แต่ก็ไม่ยอมอ้วน น้ำหนักประมาณ 16-17 กิโลกรัม เวลาลงบันไดบ้านก็จะกระโดดสามขาลงมา (ยกขาข้างที่เจ็บขึ้น) ส่วนขาอีกข้างหมอบอกว่าก็เริ่ม ๆ เป็นแล้วนะ แต่ตอนนี้ยังไม่มีอาการอะไร ก็ยังไม่ทำอะไร สงสารเค้ามากเลยตอนช่วงผ่า เค้าคงเจ็บมา คงรำคาญคอร่าด้วย ดูเค้าหงุดหงิด แล้วก็เข็ดขยาดการกินยามากเลย ตอนนี้พอเห็นหยิบถุงก็จะมองดู ถุงยาหรือเปล่า ถ้าเห็นเป็นถุงยาจะมุดเข้าใต้เก้าอี้ทันทีเลย ตอนนี้กำลังเป็นฮีทด้วย บ่งบอกว่าเค้าสุขภาพดีหรือเปล่าคะ (แตงโมเป็นฮีทครั้งแรกตอนอายุประมาณ 6 เดือน แล้วก็มาเป็นครั้งที่สองตอนนี้แหละค่ะ) ได้แตงโมมาจากเพื่อนค่ะ ไม่ได้ซื้อ


ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย carnivore ...The Alpha Wolf - Monday, 12 June 2006, 01:34PM
 

เรื่องของแตงโม น่าสงสารมากค่ะ    แต่ยังดี ที่สามารถผ่าตัดแก้ไขได้   หมาที่บ้านตัวหนึ่ง เกิดมาไม่มีกระดูกสะบ้าทั้งสองข้างเลย   ตอนเป็นลูกหมาเล็กๆขาหลังจะเหยียดตรง  ไม่สามารถงอได้เวลานั่งหรือเดิน  หมอเคยแนะนำให้ปล่อยเขาหลับไปเสียเถอะ  เพราะต้องพิการตลอดไปแน่นอน   แต่เห็นว่าเขาแข็งแรง  ร่าเริงดี  ไม่เห็นทุกข์ร้อนอะไร    ก็เลยเลี้ยงเขาต่อมาเรื่อยๆ  พอโตขึ้น  ขาที่เหยียดๆถูกเอ็นดึงให้งอเข้ามาจนชิดตัว  เหยียดไม่ได้เลย    แต่ก็สามารถปรับตัว  พยายามเคลื่อนไหวได้เองอย่างคล่องแคล่ว    จนอายุเกือบสิบปีแล้วตอนนี้   แข็งแรงดีมาก ทั้งร่างกายและจิตใจ  ไม่แสดงท่าว่ารู้ตัวเองเลยว่าพิการ  เฝ้าบ้านดีมาก  คนแปลกหน้าเข้ามา วิ่งไล่กัดเลย  โดยใช้ขาหน้าและช่วงตัว  เกร็งยกขาหลังที่งอหงิกขยับพ้นพื้นเหมือนการก้าวขาตามปกติ

เรื่องที่แตงโมมีไข้ทุกที ตอนเดินไปหาหมอ(ระยะทางไกลเหมือนกัน)   แล้วก็ไม่ได้ฉีดวัคซีนสักที  ตามที่เล่ามา   คงเป็นเพราะอุณภูมิร่างกายที่สูงขึ้นในช่วงที่ใช้พลังงานในการเดิน(ไกลเหมือนกัน) พอไปถึงร้านหมอ จึงวัดอุณหภูมิว่ามีไข้   ความจริงควรต้องนั่งพักในที่เย็นๆ สัก 15-20 นาทีก่อนค่ะ 

หมาที่บ้านอีกตัวหนึ่งเป็นโรคข้อตะโพกนี้ แบบเบ้าตื้น   คุณหมอไม่ผ่าดัดคว้านเบ้ากระดูกให้  โดยได้ให้เราดูฟิล์มเอ็กซเรย์ ว่าเบ้าตื้นเกือบแบนเป็นจาน(ไม่ใช่ ชาม แบบที่คุณจรัญบอก)  ลักษณะแบบนี้หมอไม่แนะนำให้ผ่าตัดแก้ไขตรงส่วนนั้น   เพราะเนื้อกระดูกเชิงกรานไม่พอ  แต่มีการผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็น(ไม่แน่ใจ) ด้านในต้นขาทั้งสองข้าง   ไม่ให้ดึงยึดข้อขาหลังเข้าหากันมากเกินไป  จนทำให้หัวกระดูกต้นขามีแนวโน้มเอียงออกด้านนอกเสี่ยงต่อการหลุดจากกระดูกเชิงกรานมากเกินไป   

ต้อง ให้กินยาลดปวดเป็นช่วงๆที่เขามีอาการปวดจนซึมไปกว่าปกติ  และให้ยาบำรุง ซ่อมแซมเนื้อเยื่อเกี่ยวพันรอบข้อกระดูก ,  ดูแลควบคุมน้ำหนัก  ไม่ให้เขาอ้วน  โดยให้กินอาหารตามธรรมชาติของสัตว์กินเนื้อ  คืออาหารสดดิบ   เขาเป็นหมาที่ซนมาก เคลื่อนไหวรวดเร็วมีความคล่องตัวสูง  เป็นหมานักล่าตัวจริง(ผิดพวกพ้อง)  ชอบไล่กัด นก ไก่ แมว และสัตว์อื่นๆ   ถ้าเขามีน้ำหนักมาก  เขาจะเคลื่อนไหวลำบาก  ไม่คล่องตัวตามนิสัยของเขา    จะทำให้เขาไม่มีความสุข

ทุกวันนี้หมาตัวนั้น  ยังมีชีวิตอยู่อย่างปกติเช่นเดียวกับตัวอื่นๆในบ้าน  แม้ข้อตะโพกจะพิการมากขนาดนั้นทั้งสองข้าง   จนบางครั้งเวลาวิ่งเร็วๆ  ข้อขาหลังจะเกี่ยวกันจนหกล้ม  เขาก็สามารถลุกขึ้นวิ่งต่อได้อย่างรวดเร็ว   อายุเกินสิบปีแล้ว  แต่ยังวิ่งไล่จับนก จับจิ้งเหลน , กิ้งก่า สารพัดสัตว์ ฯลฯ ได้อยู่ อย่างมีความสุขตามประสาหมา(ที่ไม่รู้ว่าตัวเอง)พิการ  (เหมือนตัวแรกที่ไม่มีลูกสะบ้า)

รูป หมาตัวที่ข้อตะโพกพิการ  เบ้าตื้น  ชื่อ บัว


ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ
โดย carnivore ...The Alpha Wolf - Monday, 12 June 2006, 01:41PM
 

รูปหมา ตัวที่ไม่มีลูกสะบ้ามาแต่กำเนิด  ชื่อลิซ่า   จะเห็นว่าช่วงอก และลำตัว แข็งแรงมาก  และขาหลังจะหดติดกับลำตัวและลีบลงเพราะไม่ได้ใช้งาน  ไม่มีกล้ามเนื้อ


ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!!
โดย น้องฮัช รูปหล่อ - Monday, 12 June 2006, 08:40PM
 

ขอบพระคุณมากนะคะ สำหรับคำอธิบาย กำลังใจ และ ข้อคิดเห็นต่างๆ คะ สองสามวัน พาเขาไปว่ายน้ำ มาสองวันแล้วคะ และ ทำพี้นสนามหญ้าประมาณ 1 ตารางเมตรให้น้องฮัชนอนเล่นแล้ว ดูเขามีความสุขขึ้นนะคะ

อยากสอบถามคะ ในเรื่องของอาหารดิบช่างคิด

คือเนื่องจาก น้องฮัชต้องอยู่ร่วมกับคนในซอยไปจนตลอดชีวิตของเขา ก็พยายามฝึกให้เขาไว้ใจคนเท่าที่จะทำได้ เพราะ ที่เข้าใจว่าสุนัขพันธุ์บางแก้วนั้น เขามีพี้นฐานที่ไม่ไว้ใจคน จึงแสดงออกด้วยอาการดุ ในช่วงที่น้องฮัชมาอยู่ที่บ้านใหม่ๆ ดิฉันพาเขาเข้าสังคมตลอด จนน้องฮัชเป็นที่รู้จักกันทั้งซอยในความน่ารัก และก็ไม่ดุ แล้วเขาก็ขึ้อ้อนทุกคนที่เขารู้จัก จนอยู่มาวันหนึ่ง ตอนเขาอายุได้ประมาณ 5 เดือน เขาถูกรุ่นพี่พันธุ์บางแก้วในซอย ที่ไม่เคยถูกปล่อยออกมาจากบ้าน แต่วันนั้นเขาหนึออกมา พอดีกับน้องฮัช และดิฉันไปเดินเล่นกัน แต่ความที่น้องฮัชเป็นหมาประชาสัมพันธ์ประจำซอย และยังเด็กอยู่ ก็วิ่งเข้าไปหาเพื่อแนะนำตัวเอง และแสดงความคาราวะด้วยการลงนอนใต้เท้ารุ่นพี่ตัวนั้น (ฮัชขอบทำแบบนี้กับหมาทุกตัวที่เขารู้จักครั้งแรกในซอย) แต่แทนที่รุ่นพี่ตัวนี้ จะแสดงมิตรไมตรีโต้ตอบ กับทำร้ายฮัช ด้วยการกัดน้องฮัช ที่ห้วไหล่และ ลากน้องฮัชเข้าบ้านต้วเอง ไม่มีใครกล้าทำอะไร และปล่อยให้เขาปล่อย ฮัชเอง ผลก็คือ น้องฮัชโดนกัดไปสี่แผล และก็ร้องไห้สุดแรงเท่าที่ดิฉันเคยได้ยินมา

ตั้งแต่นั้นมา น้องฮัช เริ่มเห่าเป็น เริ่มก้าวร้าว และ เห่าและวิ่งเข้าไปหาคนที่น้องไม่เคยเห็นมาก่อน แต่น้องฮัชในยามอารมณ์ดี น้องฮัชก็ยังเป็นหมาประชาสัมพันธ์ประจำซอยที่เป็นที่รักของเพื่อนในซอย แต่เพี่ยงแต่ไม่เป็นมิตรกับคนหน้าใหม่ๆ เท่านั้นเอง

เนื่องจากน้องฮัชยังต้องอาศัยพี้นที่ในซอยเป็นที่เดินเล่น ดิฉันก็ยังปารถนาให้น้องฮัชไม่ดุ และใจดีเหมือนก่อนที่จะโดยรุ่นพี่ทำร้ายเมื่อเดือนที่แล้ว

จึงขอเรียนถามว่า ถ้าให้กินของดิบแล้ว ความเป็นสัตว์ป่าจะกลับเข้ามาอีกหรือไม่คะ และให้กินของดิบ จะไม่เสี่ยงต่อพวกพยาธินานาชนิด และความสะอาดหรือ เพราะน้องฮัช ก็กินอาหารสะอาดมาตั้งแต่เกิดหรือคะ มีทางเลือกอื่นไม๊คะ

ขอบพระคุณคะ

น้องฮัชคะ

ปล. อ้อ!เกือบลืมไปนะคะ ดิฉันให้น้องฮัชฟังเพลง Classic ตั้งแต่เล็กๆ และพาเขาไปใส่บาตร ไปพบพระบ้างบางครั้ง และฝึกให้เขาอ่อนโยนกับพระที่เราใส่บาตรทุกครั้ง และดูเหมือนเขาจะทำตัวน่ารักและเชื่อฟังมากๆเลยคะ


ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!!
โดย ไตรสิทธิ์ . - Monday, 12 June 2006, 09:10PM
 

เรื่องอาหารสดดิบให้ด็อตคอมกินตั้งแต่เด็ก  มันติดใจ ไม่รู้เบื่อ  มันก็เป็นหมารับแขก  คอยทักทายคนในซอยไปทั่ว    แต่กับหมาไม่ได้   จะต้องมีการข่มกันหน่อย

เรื่องบาร์ฟนั้น  ศึกษาดูได้ที่ http://thai-barf-club.pantown.com/ หรือที่ Bangkaew and BARF

เรื่องสระว่ายน้ำพลาสติกถอดประกอบได้   ที่พันทิปมีคนเอามาให้ดู   แต่รู้สึกจะแพงไปหน่อย

    ความคิดเห็นที่ 4

    ไปดูที่ไวส์เครนที่สวน ลึก60เซน กว้าง100เซน ยาว200เซน ราคาประมาณ7000 บาทน่าจะให้ลูกหมาว่ายน้ำได้ซักปี แต่ของเราพันธุ์ใหญ่ค่ะ เลยต้องใช้ความลึกปะมาณ80เซนขึ้น ขอบคุณ แม่การบูร (การพลู) แต่คงใช้ไม่ได้ค่ะ มันเล็กมาก  ถ้าเป็นหมาขนาดเล็กเราว่าใช่ได้นะ ไปดูอ่างได้ที่ไวส์เครน  อยากจะใช้แบบผ้าใบเหมือนกันแต่กลัวใช้ไม่ได้นาน แต่ใครจะใช้ก้ได้มี2ขนาดหรือสั่งตัดก้ได้มั้งนะประมาณ4000-6000บาท เราหาได้จะนำมาบอกนะ พยายามหาอยู่ ถ้าใครมีบอกด้วยนะคะ อยากให้ว่ายน้ำทุกๆๆวันคะ


    จากคุณ : โอ (ventus) - [ 12 มิ.ย. 49 10:56:37 ]

 
 


ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!!
โดย carnivore ...The Alpha Wolf - Monday, 12 June 2006, 11:14PM
 

**....ขอเรียนถามว่า ถ้าให้กินของดิบแล้ว ความเป็นสัตว์ป่าจะกลับเข้ามาอีกหรือไม่คะ และให้กินของดิบ จะไม่เสี่ยงต่อพวกพยาธินานาชนิด และความสะอาดหรือ...**

 ความจริง คือ การกินของดิบ  กับนิสัยที่ดุร้ายนั้นไม่เกี่ยวกันค่ะ  หมาที่บ้าน 30กว่าตัว กินอาหารสดดิบทุกตัวมานานหลายปีแล้ว   ต้องถามคนที่เคยพบหมาที่เลี้ยงไว้ทุกตัว (ยกเว้นบางแก้วสองตัวที่รับมาเลี้ยงตอนโต และมีวีรกรรมมาก่อนแล้ว)    แม้จะมีบางตัวผ่านการฝึกอารักขา แบบสั่งให้กัดได้ มาแล้ว  ก็ไม่มีนิสัยดุร้ายแม้แต่ตัวเดียว

ทุกตัว มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีมาก แทบไม่เคยป่วยประเภทติดเชื้อหรือภูมิแพ้  และไม่เคยพบว่ามีพยาธิ จึงไม่เคยต้องถ่ายพยาธิอีกเลย  ตั้งแต่เปลี่ยนมากินอาหารสดดิบ   

ระบบย่อยของหมา  สร้างขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับย่อยอาหารประเภทนี้เป็นปกติตามธรรมชาติอยู่แล้ว   น้ำย่อยของหมา ที่มีความเป็นกรดที่เหมาะสม  สามารถย่อยกระดูก เส้นเอ็น พังผืด ฯลฯ ที่อยู่ในสภาพเดิมตามธรรมชาติ(คือดิบๆ)ได้อย่างดี   และสามารถควบคุมการแพร่พันธุ์ของพยาธิต่างๆได้  แม้จะกินไข่พยาธิที่ติดอยู่ตามพื้นดิน ใบไม้ใบหญ้าเข้าไปบ้าง  แต่สภาพภายในระบบย่อยดั้งเดิมของหมา  ก็ไม่เอื้ออำนวยที่พยาธิจะฟักออกมาเป็นตัว    

ลองเข้าไปอ่านบทความ ในเวบ  http://thai-barf-club.pantown.com/ ตามที่คุณไตรสิทธิ์แนะนำ ดูก่อนก็ได้ค่ะ    ค่อยๆอ่านบทความทุกบท  ให้เข้าใจ   จะมีรายละเอียดที่น่าสนใจและคำตอบให้กับคำถามทุกคำถามค่ะ


ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!!
โดย Pingpong \(-_-)/ - Tuesday, 13 June 2006, 09:59AM
 


    รู้ที่ซื้ออ่างพลาสติกขนาดใหญ่ที่ให้สุนัขลงไปว่ายน้ำได้แล้ว

    รู้ที่ซื้ออ่างพลาสติกขนาดใหญ่ที่ให้สุนัขลงไปว่ายน้ำได้แล้ว จะให้ลูกหมาที่บ้านว่ายเพื่อบำบัดข้อสะโพกเพราะไม่มีเวลาเอาไปว่ายที่รพ.เกษตรคะ(ต้องว่ายน้ำทุกสป.เป็นเวลา2ปีคะ) ช่วยเอาไปบอกต่อด้วยนะคะ เพื่อในสุนัขของเพื่อนมีสุขภาพที่ดี

    ชื่อร้าน สุธี ค้าถัง 60/15 ม.4 แขวงแสมดำ  เขตบางขุนเทียม กรุงเทพ  0-2416-5208  0-2895-5583-5  มือถือ0-1907-3849 ขับรถไปทางบางแคค่ะ จะออกสมุทรสาคร


    จากคุณ : โอ (ventus) - [ 12 มิ.ย. 49 22:56:18 ]

 
 
http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J4450634/J4450634.html
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!!
โดย น้องฮัช รูปหล่อ - Tuesday, 13 June 2006, 07:07PM
 

ขอขอบพระคุณในความกรุณาที่ให้ข้อมูลที่มีค่ามากมายนะคะ ตอนนี้ น้องฮัช มีความสุขมากขึ้น แต่ก็เหนื่อยจากการไปว่ายน้าทุกวัน จนกลายเป็นสุนัขขี้เกียจมากๆ เลย แต่จะปล่อยไปก่อน ค่อยสอนอีกที่พอเขารู้สึกว่าต้วเองดีขี้นกว่านี้ มีคำถามเล็กน้อยคะ

ต้วยาRymadlyn นั้น ควรให้กินนานไม่เกินกี่วันคะ หมอบอกว่าให้เขากิน สักสองวันแล้วหยุดสองวัน แต่เวลาเขากิน จะOK แต่พอไม่กินนะก็นอนตลอดเลยคะ

ขอบพระคุณมากนะคะ


ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!!
โดย carnivore ...The Alpha Wolf - Tuesday, 13 June 2006, 08:08PM
 

**การรักษาโดยทั่วไป หมอมักจะให้ยา Rimadyl (Carprofen)  เพื่อลดอาการเจ็บจากการอักเสบบริเวณข้อ ร่วมกับยาบำรุงตับ Lipochol ให้กินติดต่อกันประมาณ 7-10 หรือ15 วันตามอาการ  และให้อาหารเสริมบำรุงประเภท ที่มีสาร ไกลโคซามีโนไกลแคน , คอนดรอยติน ซัลเฟต , กรดไขมันโอเมก้า 3 , และกลูโคซามีน ฯลฯ  ซึ่งช่วยลดการอักเสบและฟื้นฟูสภาพกระดูกอ่อน เนื้อเยื่อ เส้นเอ็น โดยรอบข้อตะโพก ให้แข็งแรงขึ้น**

ตามข้อความที่ก้อปมาให้ ข้างบนนี้เลยค่ะ  ซื้อยาเองได้จากร้านขายยาสำหรับสัตว์ทั่วไป  ยาประเภทนี้ ถ้ารับจากสัตวแพทย์จะราคาค่อนข้างราคาสูง  สามารถซื้อเองได้ในราคาถูกกว่าร้านทั่วไป และสัตวแพทย์  ที่ร้าน วิทูรเภสัช ถนนประดิพัทธ์  ใกล้ธ.กรุงเทพฯ สาขาสะพานควาย กทม. อ่านรายละเอียดในฉลากยาให้เข้าใจก่อนใช้ด้วยค่ะ

ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!!
โดย น้องฮัช รูปหล่อ - Wednesday, 14 June 2006, 08:43AM
 

ขอบคุณมากๆ คะ คุณThe Alpha Wolf  สำหรับคำตอบ และขอโทษนะคะ ที่อ่านไม่ละเอียด แต่ขอถามต่ออีกสักนิดนะคะ เท่าที่สังเกต เวลาให้กิน Rimadyl แล้ว เจ้าฮัชจะรู้สึกดี และไม่ถนอมตัว จะวิ่งเล่นอย่างกับตัวเองไม่เป็นอะไร ตามประสาคิดว่าตัวเองเป็นเด็ก แต่พอยาหมดฤทธิ์ คือประมาณบ่ายๆ ของแต่ละวันก็จะหมดแรง พอไปจับขาเขาให้ นะคะ ก็ร้อง หรือไม่ก็จะกัดเรา ไม่รู้ว่าจะเหมือนคนหรือเปล่านะที่เมื่อปวดข้อ ก็กินยาแก้ปวด เพื่อให้รู้สึกดี แต่ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร  ถ้าจะไม่ให้เขากิน จะดีกว่าหรือไม่คะ

พอดีคุณหมดให้กิน 4 มื้อเช้าเย็น 2วัน เว้น 3 วัน นะคะ ในระหว่างทางก็พาเขาไปว่ายน้ำ คิดว่าใน Case ของ น้อง ฮัช ไม่ให้กินยาแก้ปวดตัวนี้เลย จะดีหรือไม่คะ แต่หันไปกินยาบำรุงแทนอย่างเดียว และออกกำลังกายคะ

ขอบคุณมากๆ อีกครั้งนะคะ

ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!!
โดย carnivore ...The Alpha Wolf - Wednesday, 14 June 2006, 02:53PM
 

**เมื่อหมาทุเลาอาการเจ็บ  สามารถเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นแล้ว  จึงค่อยเริ่มทำกายภาพบำบัด  หรือออกกำลังกายเบาๆ **

ที่ก้อปมาข้างบนนี้ ก็เป็นข้อความสำคัญอีกประโยคหนึ่งที่อาจจะไม่ทันสังเกต(แต่ก็ได้ทำตัวหนาไว้ให้แล้ว).......ว่า การรักษาในขั้นตอนต่อไป  ต้องทำภายหลังจากที่หมา หายปวดและอักเสบแล้ว   การออกกำลังกายตอนที่ยังไม่หายจากการอักเสบ   ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้าอาจจะทำให้ปวดและอักเสบมากขึ้น  และมาให้ยาแก้ปวดระยะสั้นๆพอทุเลาอาการ   แล้วก็กลับไปออกกำลังกายอีก แบบนั้น ไม่ใช่วิธีรักษาแบบยั่งยืน   และอาจเป็นอันตรายต่อหมาด้วย 

ตอนแรก ว่าจะถามเหมือนกัน  ถึงการว่ายน้ำ  ว่า ทำตามคำแนะนำของคุณหมอ หรือว่าพาไปเอง เพราะความจริงต้องพิจารณาถึงสภาพร่างกายของหมาด้วย    ต้องรักษาอาการเจ็บปวดและอักเสบให้หายแน่นอนก่อน  จึงค่อยรักษาในขั้นตอนต่อไป   เช่น ทำกายภาพบำบัด  และว่ายน้ำซึ่งก็ต้องเริ่มด้วยการอุ้มหรือประคองตัวหมาอยู่ในน้ำ  ให้หมาขยับขาเองนิดหน่อย  วันละ5-10 นาที และค่อยๆเพิ่มเวลา และดูอาการไปด้วย  ว่าเขาพร้อมสำหรับการออกกำลังกายในระดับที่หนักขึ้นหรือยัง   จึงค่อยปล่อยให้เขาว่ายเอง  แม้จะมีเสื้อชูชีพก็จริงอยู่  แต่หมาก็ต้องใช้กำลังขาของตัวเองเต็มที่  ขณะที่ลอยอย่างอิสระอยู่ในน้ำ

ตัวเองไม่ใช่หมอค่ะ  เพียงแต่มาบอกเล่าประสบการณ์ให้ฟัง  ที่เคยเลี้ยงหมาพิการมามากมายเป็นเวลานานแล้วและยังคงเลี้ยงอยู่ในปัจจุบัน   มีหลายระดับอาการและลักษณะพิการหลายประเภท  ส่วนใหญ่เป็นหมาที่เจ้าของไม่เลี้ยง(ทิ้ง)    ทำให้ได้รับข้อมูล ความรู้ และวิธีการรักษา มากมายหลายแบบ  จากคุณหมอหลายท่านและหลายสถาบัน  ระยะหลังๆ ไม่ค่อยได้ไปหาคุณหมอแล้ว  เพราะอยู่ต่างจังหวัด  ก็นำข้อมูลที่เคยได้รับ  นำมาปรับใช้กับหมาที่เลี้ยงอยู่  ได้ผลเป็นที่น่าพอใจเกือบทุกตัว

ยาที่บอกไว้  เป็นยาประจำบ้าน ที่ต้องซื้อติดบ้านไว้ครั้งละขวดใหญ่   เพราะหมาที่เลี้ยงไว้ 80 % เป็นหมาพิการ และมีปัญหาเรื่องข้อกระดูก(จึงถูกเจ้าของทิ้ง) 

ข้างล่างนี้ รูปของซิสก้า หมาของตัวเองที่เคยได้รางวัลใหญ่ระดับเบสท์อินโชว์ ออลบรีด งานใหญ่มาหลายครั้ง  แต่โชคร้ายถูกรถชนจากด้านหลัง จนกระดูกเชิงกรานเคลื่อนออกจากแนวกระดูกสันหลัง เส้นประสาทถูกกดทับ  จนขาหลังใช้งานเกือบไม่ได้  ได้พยายามรักษาจนสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง


ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!!
โดย carnivore ...The Alpha Wolf - Wednesday, 14 June 2006, 02:46PM
 

บางส่วน ของหมาพิการ และมีปัญหาทางกายภาพ ที่เลี้ยงอยู่

http://www.pantown.com/board.php?id=322&area=&name=board1&topic=1542&action=view

ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!!
โดย น้องฮัช รูปหล่อ - Wednesday, 14 June 2006, 08:10PM
 

เห็นซิกก้าแล้วน่าสงสารจังเลยคะ ไม่อยากให้น้องฮัชเป็นอย่างนี้ ดูเหมือนว่า การดูแลอาการของฮัชครั้งนี้จะขัดข้องอย่างไรก็ไม่รู้

1. ไปหาที่โรงพยาบาลสัตว์จุฬา -การให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน บอกแต่ว่าไปหาที่ว่ายน้ำ กินยาอาทิตย์  ให้เราไปหาข้อมูลเกี่ยวกับยาเอง ไม่ให้ฟิลม์มาด้วย กินยาRymadlyแล้ว 1 อาทิตย์ และกินอีกสองตัว คือ leganon กับ Gluco-S

2. มีคนแนะนำไปที่เกษตร เพื่อว่ายน้ำ พอหมอดูบอกว่ายังเด็กเกินไป ไม่แนะนำให้ว่ายที่นี้ แล้วก็ให้กินยาเหมือน กับที่หมอที่ จุฬา และเพื่อนๆ ที่เป็นสัตวแพทย์แนะนำ ก็ทำตามที่คุณหมอแนะนำ หมอแนะนำให้ไปหา สระ Private เพื่อไม่ให้มีเชื่อโรคที่เด็กอยากฮัชจะติดได้ง่าย คราวนี้ กินยาRymadlyมาแล้ว 4 มื้อเว้น 1-2 วัน และกิน 4 มื้อ ตามที่คุณหมอแนะนำ แล้วก็กิน Arthamin วันละ 1 เม็ด

3. ไปหาคลินิคแถววัดเสมียนนารี คุณหมอก็ดูอาการและก็บอก Course และ ขั้นตอน แต่คุณหมอไม่ได้ดูฟิลม์ นะคะ

การว่ายน้ำครั้งที่ 1 คุณหมอให้ใส่ชูชีพ และก็มีคนคอยช่วยพยุงให้ 5 นาที 1 ครั้ง แล้วพัก และ อีก ประมาณ 7 นาที ก็เสร็จ

การว่ายน้ำครั้งที่ 2 ฮัชว่าย 2 รอบเหมือนเคย คือ 5 นาที พัก และ ต่อ 10 นาที

เว้น 1 วัน คะให้พักก่อน

การว่ายครั้งที่ 3 ฮัชชอบมากคะ รอบที่ 1 10 นาที และ รอบที่ 2 คราวนี้เพลินไปหน่อย คือ 15 นาที เขาไม่ยอมออกจากสระคะ ต้องบังคับให้ออกนะคะ

จะพาฮัชว่ายน้ำตอนเช้าประมาณ 9-10 โมงทุกครั้ง และหลังจากว่ายน้ำนะคะ คือฮัชจะเหนื่อยมาก จะเอาแต่นอน และพอดีกับเป็นเวลานอนปกติของเขา (ฮัชจะนอนช่วยเช้า แต่ตื่นในช่วงบ่ายแก่และ ตอนกลางคืน)

ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!!
โดย Pingpong \(-_-)/ - Thursday, 15 June 2006, 11:21AM
  ผมเคยปวดเข่า กินยาแก้ปวดแล้ว ไปเดินต่อ กลับมาก็ปวดต่อ ไม่หายซะที ยิ่งปวดเข้าไปใหญ่ คราวนี้เลยต้องนอนพักนานเลย อยากให้ทำตามที่ป้าวิแนะนำ คือ กินยาแก้ปวดแล้ว ไม่ใช่ไปออกกำลังกาย ควรนอนพักพื้นให้หายดีก่อน หรือ ออกกำลังกายเบาๆโดยเราประคอง อย่าให้ไปกระโดดโลดเต้น
    ความคิดเห็นที่ 21

    เสื้อชูชีพ..มีที่ prima dog ค่ะ
    เซ็นทรัลชิดลม กับ เอ็มโพเรี่ยม สาขาอื่นไม่ทราบค่ะ


    จากคุณ : สาวยิปซี - [ 14 มิ.ย. 49 12:52:14 ]
 
 

Click to enter http://www.bangkaew.com/elearning3

Bangkaew.net and Bangkaew.org are for sale
See details at https://sedo.com/search/?keyword=bangkaew